โซ่หลุด ฉบับ 1,039 ความแตกต่าง…ที่ชัดเจน คนบริหารที่เปลี่ยนไป ความผูกพัน…ที่ไม่คุ้นเคย
ในวังวนแห่งการเปลี่ยนแปลง ทั้งโลกของการสื่อสารและโลกของคนทำงานของคนมอเตอร์ไซค์นั้น “โซ่หลุด” ได้รับรู้ถึงความหมายของความผูกพันชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ… “คนบริหาร” ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนญี่ปุ่น ที่เคยมีถึง 4 ค่าย เหลือเพียงแค่ 2 ค่ายเท่านั้น ทำให้อดคิดถึงวันวานที่แตกต่างเป็นอย่างยิ่งจากวันนี้ นอกจากจำนวนคนที่รู้จักที่น้อยลงไปแล้ว คนบริหารที่เป็นคนญี่ปุ่น ก้อ…แตกต่างกันไปด้วย วันนี้…เป็นเหมือนการทำงานตามหน้าที่ ตามความรับผิดชอบ จบงานก็เป็นอันหมดหน้าที่ แทบไม่มีการพูดคุย เหมือนหมดหน้าที่เป็นอันจบข่าว ซึ่งชัดเจนยิ่ง ทั้งๆ ที่เป็นคนบริหาร เป็นคนแถวหน้า
ทั้ง 2 ค่ายที่เหลืออยู่ทั้งไทยฮอนด้า และไทยยามาฮ่า มีคนบริหารที่เป็นหัวแถวจริงๆ ต่างก็เป็นคนญี่ปุ่น ยิ่งฝั่งไทยฮอนด้านั้นชัดเจนยิ่ง เพราะเรียงหน้า 3 คน ทุกครั้งที่มีการแถลงข่าว เมื่อจบข่าวก็เป็นอันจบเกม เดินเรียงแถวกลับสู่ที่ตั้ง ถึงจะมีสัมภาษณ์บ้าง ก็เหมือนไม่มีอะไร? ไม่ค่อยได้เห็นคนบริหารคนไทยมีบทบาทสักเท่าไหร่? สิ่งสำคัญ… “คนสื่อ” ก็เปลี่ยนไป จากสื่อดั้งเดิมสู่สื่อออนไลน์ ก็ไม่ค่อยให้ความสนใจกันเรื่องนี้ ขอแค่ได้ข่าวได้ภาพ เพราะต้องรีบนำเสนอ เพื่อรายงานข่าวที่เน้นความรวดเร็วมากกว่าข้อมูลเชิงลึก แตกต่างจากวันวาน ที่คนบริหารยังเป็นคนไทย แถลงข่าวจบแล้ว ยังมีการพบปะพูดคุยกันนอกรอบ ที่ชัดเจนเป็นความสนิทสนมที่มีความผูกพันเป็นต้นทุนผสมผสานเข้าด้วยกัน
ในฟากฝั่งคนบริหารที่เป็นคนไทย ก้อ…แตกต่างกันไป วันวานนั้น “โซ่หลุด” ยอมรับว่า…รู้จักและมีความผูกพันกันมาก ทุกครั้งที่มีงานหรือมีกิจกรรมจะได้เจอะเจอ จะได้เมาท์มอยกันแบบคุยกันไม่จบ มีคนไทยเยอะแยะที่มีบทบาท ที่สามารถพูดคุยกันได้ แถลงข่าวจบเหมือนยังไม่จบ บรรยากาศจะสนุกสนานและเป็นกันเองมาก หรือแม้แต่เวลากินข้าวก็จะมีการร่วมโต๊ะ และคุยกันด้วยแบบคุยกันทุกเรื่อง สนุกและเป็นกันเอง นี่เป็นบรรยากาศที่ยอมรับว่าหดหายไป และอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ตราบใดที่ “คนบริหาร” ก็เปลี่ยนไป ไม่ใช่คนไทย ไม่ใช่คนที่คุ้นเคย แต่เป็นคนญี่ปุ่นที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงภาษาที่สื่อสารกันยากอีกด้วย
ก้อ…เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้…ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่ยังพอมีคนบริหารคนไทยให้พอได้พูดคุย โดยเฉพาะยิ่ง “ไทยยามาฮ่า” ที่ “โซ่หลุด” มองว่ายังมีหลากหลายคน รวมถึงความชัดเจนแห่งบทบาทก็แตกต่างกันไป ไม่ได้อคติ แต่รู้สึกได้ว่าคุ้นเคยกว่า ทั้งคนบริหารและคนพีอาร์ ที่ “ไทยฮอนด้า” เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะมาก จนรู้สึกเหมือนรู้จักแต่ “คุณอา” อารักษ์ พรประภา อยู่แค่คนเดียว ก้อ…เป็นอาการของ “โซ่หลุด” ที่อาจไม่เหมือนใคร อย่าเอามาเป็นอารมณ์นะครับ
สุดท้าย…ยังไงก็ยังรักและผูกพันทุกค่ายแหละ