Ramindhra UHU

Top Menu

  • หน้าหลัก

Main Menu

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • หน้าหลัก

Ramindhra UHU

Header Banner

Ramindhra UHU

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • ‘เก๋ง’ สวนวิกฤติ เดือน 4 โต 3.6% ‘ไฮบริด’ มาแรงขายมากสุด

  • “อีซูซุ” ผลักดันกีฬาเบสบอล หนุนยุวชนทีมชาติไทย ชิงชัยระดับนานาชาติ ณ เกาหลีใต้

  • ‘นิสสัน’ พร้อมส่งมอบ เซเรน่า ลูกค้ากลุ่มแรก

  • ‘ฟอร์ด’ แนะขับขี่ปลอดภัย พร้อมเทคโนโลยีตรวจเช็กรถ

  • ‘BMW’ / ‘MINI’ เปิดประสบการณ์ดิจิทัล

ข่าวรถยนต์
Home›ข่าวรถยนต์›‘ส.อ.ท.’ ชี้ปัญหา ‘ชิป’ ขาด ปรับเป้าผลิต 1.75 ล้านคัน

‘ส.อ.ท.’ ชี้ปัญหา ‘ชิป’ ขาด ปรับเป้าผลิต 1.75 ล้านคัน

By writer
September 12, 2022
842
0
Share:

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท.ประกาศปรับลดยอดการผลิตรถยนต์ปี 65 จากเดิม 1.8 ล้านคัน  เหลือ 1.75 ล้านคัน ลดลง 5 หมื่นคัน แจงปรับลดเฉพาะตลาดส่งออก ส่วนตลาดในประเทศปรับขึ้น  หลังปัจจัยสนับสนุนดันยอดขายโต

            นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศว่า ได้ปรับเป้าผลิตรถยนต์ปี 2565 จาก 1,800,000 คัน เป็น 1,750,000 คัน ลดลง 50,000 คัน โดยปรับเป้าผลิตส่งออกลงจาก 1,000,000 คัน เป็น 900,000 คัน และปรับเป้าผลิตขายในประเทศขึ้น จาก 800,000 คัน เป็น 850,000 คัน

            สำหรับปัจจัยที่ทำให้ต้องปรับลดยอดผลิตเพื่อการส่งออกลดลง เป็นผลมาจากสงครามยูเครน-รัสเซียที่เกิดขี้นปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ยืดเยื้อนาน ทำให้การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วขาดแคลนมากขึ้น เพราะทั้งสองประเทศส่งออกรายใหญ่ ก๊าซนีออนที่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และผลพวงจากสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้การส่งออกรถยนต์ไปทั้งสองประเทศลดลงกว่าสองหมื่นคัน

            ขณะการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ ตั้งแต่เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2565 ทำให้ขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้น เพราะโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ด้านประเทศเมียนมาประกาศห้ามนำเข้ารถยนต์เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2565 ทำให้ส่งออกรถยนต์ลดลงกว่าสองพันคัน

            รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ อาทิ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ไต้หวัน ตะวันออกกลาง อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศชั้นนำของโลก อาจทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง

            ส่วนปัจจัยในการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากต่างประเทศให้สะดวกขึ้น  ทำให้มีนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเดินทางเข้าประเทศหลายล้านคน การส่งออกที่ยังคงเติบโตจากปีที่แล้ว ที่มูลค่าส่งออกทำสถิติสูงสุด ทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้เพิ่มขึ้น รัฐบาลประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด

รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ด้วยการเพิ่มค่าใช้จ่ายการประชุม การจัดสัมมนา และการผ่อนคลายการล็อกดาวน์โควิด-19  ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้น รวมถึงการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ของบรรดาค่ายรถยนต์ชั้นนำ ที่ทยอยเปิดตัวออกมาช่วงกลางปี-ปลายปี 2565

Previous Article

‘NETA’ ผุด ‘ไดเร็กต์ สโตร์’ เสริมช่องทางสื่อสารลูกค้า

Next Article

Maybach S580 อีกระดับ “เลิศหรู” ลักชัวรี ซีดาน เริ่มต้น ...

0
Shares
  • 0
  • +
  • 0

Related articles More from author

  • ข่าวรถยนต์

    “มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ” ร่วมสร้างอนาคตเด็กไทย

    December 2, 2024
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43” มอบรางวัลแก่ผู้โชคดี มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท

    July 25, 2022
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “ซูซูกิ” แจกกลยุทธ์ ล่ายอดขาย 2.7 หมื่น

    February 5, 2023
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “มอเตอร์โชว์” “รถใหม่” ท้าทาย คน “แห่จอง”

    March 25, 2023
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    ‘บีวายดี’ บุกตลาดเมืองไทย คาดเปิดตัว 1 รุ่น ไตรมาส 4

    August 23, 2022
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    ‘ฟอร์ด’ กระชับความสัมพันธ์ ชวนลูกค้าส่งมอบสิ่งดีๆ คืนสู่สังคม

    January 8, 2023
    By writer

Copyright © ramindhra-uhu.com. All rights reserved.