รามอินทรา จอ…จ่อ…จ้อ…623 วิถีชีวิต…สไตล์ “รามอินทรา” วิถีชีวิต…ที่เรียบง่าย วิถีชีวิต…ที่สงบนิ่ง

ยังไม่รู้ว่า…ฤดูหนาวมาจริงหรือยัง เมื่อล่วงเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน อยากให้หนาวจริงๆ อยากรู้เหมือนกันว่า…จะหนาวระดับไหน จะได้เตรียมเสื้อหนาวได้ถูก กลัวว่า…แค่หยิบออกจากตู้ใส้ได้แค่วันสองวัน หายหนาวซะแล้ว กรมอุตุฯ บอกว่าปีนี้จะหนาวน้อยกว่าปีที่ผ่านมา เอาเถอะ…จะหนาวมากหนาวน้อยขอให้หนาวจริงๆ จะหนาวนานหนาวน้อยก็ไม่เป็นไร? ด้วยเพราะ…ฤดูหนาวนั้น จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ ยาวนาน 4 เดือน ยังไม่รู้ว่า…จะยาวขนาดนั้นจริงหรือ ห้อ…แปลกเน๊าะ เพราะถ้าจำไม่ผิดสมัยก่อนโน่น คำว่าฤดูหนาวนั้นไม่ต้องมีคำถามอะไรมากนัก ยังไงก็หนาวแน่ๆ เรื่องหนึ่งที่ยังจำได้ อากาศหนาวตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม วันที่ 28 ตุลาคมที่เป็ฌนวันปิยมหาราชนั้น ได้สัมผัสอากาศหนาวแล้ว ต้องใส่เสื้อหนาวไปเดินดูพวงมาลา ที่หน่วยงานต่างๆ นำมาถวายบังคม ที่สำคัญ…ยังได้ใส่เสื้อหนาวยาวๆ จนเลยช่วงปีใหม่อีกด้วย
จากวันวานสู่วันนี้…วิถีชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก แทบไม่เคยได้สัมผัสคำว่าหนาวสักเท่าไหร่ เป็นการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ที่เหมือนจะเหลือแค่เพียงฤดูฝนกับฤดูร้อน แถมเป็นฤดูร้อนที่ต้องบอกร้อนมาก ร้อนจนมีคนพูดว่า เหมือนพระอาทิตย์จะอยู่ใกล้โลกเรามากกว่าที่ผ่านมา เจอแดดร้อนๆ ต้องรีบหนีเข้าที่ร่ม รวมถึง…ความไม่แน่นอนแห่งฤดูกาล ที่ดูแล้วไม่ค่อยจะเป็นไปตามฤดูกาล บางปี…ฝนก็ตกเยอะ บางปี…ฝนก็ตกน้อย น่าจะเป็นเรื่องของธรรมชาติที่เปลี่ยนไปจริงๆ อีกเรื่องที่รู้สึกได้ โรคภัยไข้เจ็บ ที่มีโรคแปลกๆเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ เหมือนช่วงโควิด-19 นั่นแหละ ไม่เคยมีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นน แถมยังอันตราย มีคนตายมากมาย จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างนานเป็นปีๆ เป็นอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวิถีของโลกที่ “รามอินทรา” เองก็ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอะเจอ
วันนี้… “รามอินทรา” ก็รู้สึกวิถีชีวิตตัวเองก็เปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นคนสู้หนาว กลายเป็นคนไม่ทนหนาว โดยเฉพาะ…เวลาที่เจอะเจอแอร์เย็นๆ จะรู้สึกหนาวมาก จนบางครั้งต้องยอมย้ายที่นั่งทำงาน ไปนั่งอีกห้องแถมไม่ต้องเปิดแอร์อีกด้วย รู้สึกสบายตัวกว่า รวมถึง…ไม่ค่อยชอบออกไปไหนมาไหน ขึ้นตึกมาทำงานแล้วแทบจะไม่ได้ลงไปไหน จนกว่าจะกลับบ้านนั่นแหละ ยิ่งไม่ต้องกินข้าวเที่ยงยิ่งสบาย ได้พักผ่อนได้พักตาบ้าง หรือบางครั้งก็นั่งทำงานต่อ ไม่ก็กริ๊งกร๊างคุยกับพรรคพวกที่มักจะว่างในช่วงพักเที่ยง แต่…ส่วนมากพักผ่อนมากกว่า ก้อ…เป็นอีกวิถีที่ทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปแข่งขันกับใคร ไม่จำเป็นต้องไปหาแสงอะไร นานๆก็จะหาเวลาไปงานของค่ายรถยนต์หรือค่ายรถจักรยานยนต์บ้าง ได้เจอใครต่อใครบ้าง เป็นอีกความสุขที่ “รามอินทรา” สัมผัสได้แบบชัดเจน และมีชีวิตที่อิสระมากขึ้นด้วย
เป็นอีกสัปดาห์ที่ “รามอินทรา” จอ…จ่อ…จ้อ ไปเรื่องเปื่อย เหมือนเขียนเล่าเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เพื่อให้คนที่ยังคิดถึงกันได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวของ “รามอินทรา” กับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
แต่ยังคงเป็น “รามอินทรา” คนเดิมนะครับ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
22 ตุลาคม 2568





