ปัญหาชายแดนดูเหมือนจะจบยาก ใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องเจอะเจอปัญหาความซ้ำซ้อน ที่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ เรื่องของคนการเมือง ที่ว่ากันว่า…ไม่มีความจริงจังในการแก้ไขปัญหา ใครมาเป็นรัฐบาล ก็ต้องตกอยู่ในวังวนแห่งการรถูกเฝ้ามอง ทั้งจากคนในพรรคการเมือง ที่ต้องมองข้ามไปจนถึงการเลือกตั้งในครั้งต่อไป แต่สิ่งที่ไม่อาจมองข้าม ความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ที่ไม่มีผลประโยชน์มีแต่ปากท้องที่ต้องกินต้องใช้ โดยเฉพาะ…คนที่อยู่ตามชายแดน ยังแทบไม่ได้ทำมาหากิน ยังยืดเยื้อก็ยิ่งยากลำบาก ทุกคนอยากให้ปัญหาจบสิ้นลงโดยเร็ว อยากให้เอาแผ่นดินของเราคืนมา แล้วสร้างรั้วให้เรียบร้อย จะได้จบปัญหากันซะที ซึ่งก็ยังไม่รู้เลยว่า รัฐบาลไหนจะสามารถทำให้ทุกอย่างจบลงได้อย่างเบ็ดเสร็จจริงจัง คนเป็นเรื่องที่คนไทยต้องติดตามกันต่อไป ถือเป็นมหากาพย์แห่งผลประโยชน์อย่างแท้จริง

อีกเรื่องที่เกิดขึ้นของวันนี้ เป็นความคึกคักแห่งโครงการคนละครึ่งพลัส ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นความคึกคักของคนระดับล่าง ที่แทบจะพูดเป็นเรี่องเดียวกันว่า เงิน 200 บาทนั้น ในสถานการณ์เยี่ยงนี้ ถือว่ามีค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะยังสามารถใช้จ่ายได้อย่างน้อยก็ทำให้ชีวิตประจำวัน ไม่ยากลำบาดทำให้ได้เห็นความคึกคักเกิดขี้นทั่วประเทศ คนที่ไม่เคยยากลำบากคนที่ไม่ค่อยรู้สึกถึงคุณค่าของเงินวันละ 200 บาท ที่ได้รับจากรัฐบาล แต่…สำหรับคนที่หาเช้ากินค่ำนั้น มีคุณค่าเป็นยิ่งนัก เพราะสามารถจับจ่ายได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เงิน 200 + 200 เป็น 400 บาท ไม่ใช่เงินน้อยๆ สามารถประคับประคองชีวิตของคนกลุ่มหนึ่งได้เลย ใครที่ได้รับสิทธิ์แล้วลองไปใช้จ่าย ก็จะรับรู้ถึงความรู้สึกนี้ได้เป็นอย่างดี “รามอินทรา” สัมผัสได้ชัดเจนยิ่ง เพราะเงิน 400 บาทนั้น สามารถจับจ่ายใช้สอยได้อย่างพอเพียงเลยล่ะ

ก้อ…เป็นอีกบรรยากาศที่ “รามอินทรา” สัมผัสได้ในวันนี้วันที่ประเทศไทยยังคงอยู่ในวังวนแห่งความโศกเศร้าอาลัย ต่อการเสด็จสวรรคตของพระพันปีหลวง อันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย ยังไงก็อยากให้ทุกคนได้มีชีวิตที่โอเคมากยิ่งขึ้น อยากให้สามารถประคับประคอง ชีวิตให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างมีความสุข แม้จะอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ สิ่งสำคัญที่สุดต้องดูแลชีวิตให้มีความปลอดภัยอีกด้วย โดยเฉพาะ…ในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะไปทำกิจธุระหรือชีวิตของคนทำงาน ขับรถใช้ถนนอย่าประมาทโดยเด็ดขาด ใช้ชีวิตให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ปี 68 นั้นผ่านไปรวดเร็วจริงๆ เผลอแป๊บเดียวเหลือแค่ไม่ถึง 2 เดือนแล้ว เดี๋ยวก็จะสิ้นปีเข้าสู่ปีใหม่ 2569 กันแล้ว ด้วยเหตุนี้…ต้องทำชีวิตให้มีความสุข มีเงินใช้อย่างพอประมาณ จะได้เป็นต้นทุนของปีหน้าที่ยังไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นเยี่ยงไร?

แต่สำหรับชีวิตของ “รามอินทรา” วันนี้ยังมีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตเป็น “คนเขียนหนังสือ” เขียนให้อ่านกัน 3 เรื่อง 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น “รามอินทรา” ยกนิ้วให้ “รามอินทรา” จุ๊กจิ๊ก และ “รามอินทรา” จอ…จ่อ…จ้อ ไม่นับรวมที่หนังสือพิมพ์ยวดยาน อีกสัปดาห์ละ 4 คอลัมน์ เบ็ดเสร็จแล้ว 8 คอลัมน์ ก็เป็นอีกความสุขที่ต่อเนื่องมาอย่างยาวนานเข้าสู่ปีที่ 28 แล้ว

ยังมีความสุขและยังคงเป็นคนเขียนต่อไป

มากกว่าขอบคุณ

“รามอินทรา”

บ้านชินเขต

5 พฤศจิกายน 2568