มิตรภาพผ่านเว็บไซต์ 651 ชีวิต…ช่วงมอเตอร์โชว์ แตกต่างจากวันวาน “คนสื่อ” เปลี่ยนแปลง

งานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46…เปิดม่านเรียบร้อยแล้ว ก้อ…ยังไม่รู้ว่าปีนี้จะได้เจอะเจอ พรรคพวกคนสื่อมากน้อยแค่ไหน ด้วยเพราะการเปลี่ยนแปลงของโลกการสื่อสาร ซึ่งต้องยอมรับว่า…เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ต้องยอมรับความเป็นจริง ทุกครั้งที่มีงานต้องเข้างานทุกวัน ระยะหลังเดินคนเดียวแทบไม่เจอใคร ไม่ว่าจะเป็นคนสื่อหรือคนบริษัท ถ้าจะเจอก็แค่วันเปิดงานนั่นแหละ นี่เป็นการดำรงอยู่ของคนสื่อยุคนี้ ถามว่ารู้สึกอะไรมั้ย? ก้อ…น่าจะเป็นเรื่องปกติแล้วล่ะ “คนสื่อ” รุ่นเดียวกันนั้น ยิ่งแทบหายากขึ้น ทั้งๆที่คนสื่อที่เห็นในทุกครั้งที่ค่ายยานยนต์มีงานนั้น เยอะแยะไปหมด ทุกคนล้วนเป็นเจ้าของสื่อ แค่มีมือถือเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น เลยไม่แปลกใจหรอก ถ้าจะมีแค่คนเป็นเจ้าของ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงตามมา เป็นเรื่องของคนบริษัทนั่นแหละ ด้วยเพราะไม่รู้จะดูแลกันอย่างไร? คนสื่อเยอะแยะไปหมด ต่อให้มีงบมากมายขนาดไหน ก็เชื่อว่าน่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง สุดท้าย…ยังไม่รู้เลยว่า คนสื่อจะทำอย่างไรให้สามารถดำรงอยู่ได้ เคยคุยกับพรรคพวก แล้วนั่งประเมินกันว่า…แต่ละคนนั้นจะต้องมีรายได้เท่าไหร่ถึงจะสามารถประคับประคองให้อยู่กันได้ ซึ่งสรุปแล้วยังไงก็อยู่ยาก ที่น่าสนใจ…ยังไงคนบริษัทก็คงยากจะหางบประมาณมาดูแลได้ครบถ้วนทุกสื่อ แถมวันนี้…ทุกบริษัทล้วนแต่ลดงบ ไม่เห็นมีค่ายไหนบริษัทไหนที่มีนโยบายเพิ่มงบเลย ไม่ว่าบริษัทเล็กบริษัทใหญ่ ด้วยเหตุนี้…ทำให้มองเห็นเส้นทางแห่งคนสื่อสายยานยนต์ คงไม่สามารถดำรงอยู่ได้แบบสบายๆ
ปีนี้…เชื่อว่าบรรยากาศของการเดินเข้ามอเตอร์โชว์ คงจะไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา “รามอินทรา” ไม่ค่อยได้ใช้บริการห้องสื่อมวลชน ส่วนมากจะใช้บริการตามบูธต่างๆ เจ้าประจำของทุกปีเป็น “บูธลามิน่า” แต่ปีนี้ไม่ได้มาออกบูธด้วยเหตุผลบางประการ น่าจะเหงาๆไปบ้าง ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะไปใช้บริการที่ไหนดี เผลอๆคงเดินไปเรื่อยๆ เมื่อนตรงไหนก็หย่อนตรงนั้นแหละ คงหาที่ประจำไม่ได้หรอก หรืออาจจะมีก็ได้ เพราะส่วนมากวันธรรมดา บูธจะว่างเป็นส่วนมาก น่าจะพอหาที่ว่างให้ได้นั่งพักได้บ้าง ก้อ…ด้วยเพราะอายุที่เยอะขึ้น ทำไมวันนี้ “รามอินทรา” ก็แตกต่างจากวันวาน ต้องกาที่พักขาไว้เยอะๆ ขืนเดินเยอะๆ คงไม่ไหวหรอก ยังไงก็ต้องเดินบ้างพักบ้าง หลังจากผ่านการเขียนต้นฉบับอย่างหนักมาตลอด กว่าจะจบน่าจะเป็นหลังวันสงกรานต์โน่นแหละ แต่ก็เป็นอีกความสุขที่ได้เป็นคนสื่อ ได้เป็นคนเขียนหนังสือ
ด้วยเหตุนี้…วันนี้ “รามอินทรา” จึงยังเป็นคนเขียนหนังสือ ที่มีงานเขียนสัปดาห์ละ 3 คอลัมน์ 3 สไตล์ เป็น “รามอินทรา” ยกนิ้วให้ “รามอินทรา” จุ๊กจิ๊ก และ “รามอินทรา” จอ…จ่อ…จ้อ ก้อ…ถือเป็นอีกความสุขที่ได้ใช้เส้นทางนี้ดำรงชีวิต ทำให้ชีวิตมั่นคงขึ้น ทำให้ช่วยมีความสุขมากขึ้น ก้อ…เป็นอีกความสุขเป็นอีกชีวิตที่ไม่เคยตั้งใจว่าจะเป็นได้แล้วก็ก้ามมาเป็นคนเขียนหนังสือ มาจนถึงปัจจุบัน
กลายเป็น “รามอินทรา” เป็น “โซ่หลุด” และเป็น “เกียร์ 6” ที่มีงานเขียนทุกสัปดาห์
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
12 มีนาคม 2568