รถกระบะมาสด้า บีที-50 เวอร์ชันล่าสุด มาพร้อมการตอบรับที่ดีขึ้นเป็นลำดับจากผู้บริโภค หลังยกระดับรูปโฉมและสมรรถนะการใช้งาน ภายใต้ขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ ตอกย้ำความนิยมของลูกค้าในยุคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญเรื่องความประหยัด ด้วยยอดจองกว่า 60% สำหรับเครื่องยนต์พิกัด 2.2 ลิตร ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ขยับตัวเติมความคึกคักให้กับตลาดรถกระบะในประเทศไทย ด้วย มาสด้า บีที-50 ใหม่ สร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขาย กระตุ้นการตัดสินใจจากผู้บริโภค ด้วยรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นทันสมัยยิ่งขึ้น มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ 2 พิกัด เช่นเดียวกับค่ายพันธมิตรที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

ซึ่งทิศทางดังกล่าว เป็นการตอกย้ำความสำคัญของตลาดรถกระบะในประเทศไทย โดย มาสด้า ในฐานะผู้เล่นหลักและเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ร่วมขับเคลื่อนและผลักดันให้ตลาดเติบโตนับตั้งแต่ออดีต ถึงแม้ปัจจุบันสัดส่วนในตลาดจะหดตัวลง ทว่ารถกระบะยังคงเป็นเซ็กเมนต์หลักในตลาดประเทศไทย

“การเปิดตัว มาสด้า บีที-50 ใหม่ นับว่ามีความสำคัญยิ่ง เนื่องจาก มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญต่อฐานการผลิตและส่งออกในประเทศไทย โดยเลือกประเทศไทยเพื่อแนะนำและวางจำหน่ายที่แรกของโลก มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มองหารถกระบะที่ให้ทั้งสมรรถนะสูง แรง และดีไซน์ที่โดดเด่นแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะ” นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำความสำคัญ

ด้วยรูปโฉมและสมรรถนะการใช้งานที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ส่งผลให้ มาสด้า บีที-50 ใหม่ สามารถขยับยอดขายในตลาดรถกระบะให้กับค่ายมาสด้าในช่วงโค้งสุดท้ายของปี มาพร้อมการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในประเทศไทย ที่เดินหน้าจับจองเป็นเจ้าของเวอร์ชันล่าสุดของรถกระบะมาสด้า ซึ่งมากกว่า 60% เป็นทางเลือกใหม่ ภายใต้ขุมพลังพิกัด 2.2 ลิตร

จากทิศทางดังกล่าว สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการกระบะที่มีความครบครันทั้งในด้านรูปโฉมที่ทันสมัย รวมถึงสมรรถนะที่ตอบโจทย์ในเรื่องของพละกำลัง ทว่ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม ในแบบฉบับของรถกระบะในยุคปัจจุบัน ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้อย่างหลากหลาย

สำหรับ มาสด้า บีที-50 มาพร้อมดีไซน์ใหม่รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED Signature ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว  สีดำ และ 18 นิ้ว สีเงินและสีดำ รวมถึงสีภายนอกใหม่ 3 สี ได้แก่ สีขาว จีโอด ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำเงิน เซลลิ่ง บลู และสีแดง เวอร์มิลเลียน ลาโตซอล เรด

การออกแบบของตัวรถเป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้กับปิกอัพรุ่นนี้ ช่วยให้ได้สมรรถนะที่ดีขึ้น ช่วงล่างเกาะถนนและนุ่มนวลยิ่งขึ้น ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่น ขณะที่ภายในห้องโดยสารยังคงเน้นความหรูหรา ใช้วัสดุคุณภาพสูงตามแบบฉบับรถมาสด้า ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสุนทรียศาสตร์สไตล์ญี่ปุ่น

ยกระดับสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ล่าสุด ขนาด 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์ทรงพลังขนาด 3.0 ลิตร ที่ได้รับการปรับปรุงพละกำลังของเครื่องยนต์ให้มีความแรงยิ่งขึ้น โดยเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.2 ลิตร ทั้งในรุ่นฟรีสไตล์แค็บ แบบขับสองยกสูง หรือ FSC HI-RACER และดับเบิ้ลแค็บ แบบขับสองยกสูง หรือ DBL HI-RACER มาพร้อมพละกำลังแรงสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ใหม่ล่าสุด ให้อัตราทดต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว  ตอบสนองฉับไว แม่นยำ ราบเรียบ นุ่มนวล ทำให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ DBL รุ่นเครื่องยนต์ 3.0 รุ่น HI-RACER และรุ่นขับเคลื่อน 4×4 ให้พละกำลังแรงสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร

มีให้เลือกใช้ 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Freestyle Cab 2 ประตู FSC 2.2 XS Hi-Racer 6MT ราคา 762,000 บาท, Double Cab 4 ประตู DBL 2.2 XT Hi-Racer 8AT ราคา 992,000 บาท, Double Cab 4 ประตู DBL 3.0 XTR Hi-Racer 6AT ราคา 1,242,000 บาท และ Double Cab 4 ประตู DBL 3.0 XTR 4×4 6AT ราคา 1,352,000 บาท