‘GEELY’ ชูระบบ EM Super Hybrid มาตรฐานใหม่ ระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด

จีลี่ เดินหน้ารุกตลาดพลังงานงานใหม่เต็มรูปแบบ ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ EM Super Hybrid สู่นิยามใหม่ของระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเทคโนโลยีแพลตฟอร์มอัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเอกสิทธิ์เฉพาะของ จีลี่
กลุ่มบริษัท จีลี่ โฮลดิ้ง หนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์ที่มีความโดดเด่นในการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัย เดินหน้ารุกตลาดพลังงานใหม่ โดยมีบริษัท ธนบุรีนอยเสติร์น จำกัด ผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จีลี่ (GEELY) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ EM Super Hybrid ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกำหนดนิยามใหม่ของระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยี GEA (Global Intelligent Electric Architecture) เทคโนโลยีแพลตฟอร์มอัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเอกสิทธิ์เฉพาะของจีลี่ เพื่อยกระดับระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่ล้ำสมัยที่สุด
เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม GEA ถือเป็นหัวใจสำคัญในการมอบทางเลือกใหม่ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงให้แก่ผู้ขับขี่ เพื่อต่อยอดความสำเร็จของ GEELY EX5 โดย GEELY Starray ได้ถูกติดตั้งระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ ภายใต้ชื่อ EM PHEV Super Hybrid ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) รุ่นใหม่ล่าสุดของ GEELY ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งยนตรกรรมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด อย่างแท้จริง โดยระบบขับเคลื่อน EM PHEV Super Hybrid มีสองรูปแบบ ได้แก่ EM-i และ EM-P
ระบบขับเคลื่อน EM-i PHEV Super Hybrid เสริมประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ขั้นสูง พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นและยังสามารถเพิ่มระยะทางขับขี่ได้ไกลขึ้น โดยสามารถวิ่งได้ไกลเกินกว่า 2,100 กม. ต่อการเติมน้ำมันเต็มถังและการชาร์แบตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้ง โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 2.49 ลิตรต่อ 100 กม. ในโหมด Low-SOC (ระดับประจุไฟต่ำ) พร้อมการจัดการพลังงานด้วยเทคโนโลยีระบบ AI ทำให้ขุมพลัง EM-i สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ตามสถาพถนน และพฤติกรรมของผู้ขับขี่แบบเรียลไทม์ เพื่อให้เกิดความประหยัดในอัตราสิ้นเปลืองทั้งปริมาณน้ำมันและกระแสไฟฟ้า
ระบบขับเคลื่อน EM-P PHEV Super Hybrid ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้ออัตโนมัติ (All-Wheel Drive) ขุมพลัง EM-P สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 4.5 วินาที โดยจุดเด่นของระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด EM-P คือระบบสำรองพลังงานจาก 5 แหล่ง ได้แก่ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าสองตัว, เครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูง และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังสองตัวแบบอิสระโครงสร้างพลังงานสำรองนี้ช่วยเสริมการควบคุมได้อย่างแม่นยำในสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมาย เช่น ยางระเบิด หรือสูญเสียแรงยึดเกาะ พร้อมกันนี้ระบบขับเคลื่อน EM-P ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ด้วยการทำงานร่วมกันของระบบกระจายแรงบิดอัจฉริยะที่รองรับทุกสภาพถนน รวมถึงระบบการจัดการเสถียรภาพการขับขี่ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ล้ำสมัย
EM-P PHEV Super Hybrid ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของวงการยานยนต์ไฟฟ้า การเปิดตัวนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ดังกล่าว สู่ตลาดยานยนต์ทั่วโลก ตอกย้ำถึงบทพิสูจน์ของสมรรถนะที่เหนือระดับของ EM-P PHEV Super Hybrid ขุมพลังอัจฉริยะแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด แห่งอนาคต ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความปลอดภัย และความเร้าใจในการขับขี่ไว้ที่เดียวกันอย่างครบครัน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ขับขี่ยุคใหม่อย่างแท้จริง