‘GWM’ TANK 500 Black Warrior บทบาทใหม่ความพรีเมียมทรงพลัง

NEW GWM TANK 500 DIESEL รุ่น Black Warrior ยกมาตรฐานใหม่ของความแตกต่างรถยนต์เอสยูวีพรีเมียม 7 ที่นั่ง ด้วยดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่ดูโดดเด่นดุดัน พร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย กับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนใหม่ล่าสุดที่พัฒนาโดย GWM
จากกระแสตอบรับเป็นอย่างดีหลังการเปิดตัวไปเพียงสามสัปดาห์ NEW GWM TANK 500 DIESEL ได้ฤกษ์ส่งมอบสู่ลูกค้าล็อตแรกไปเมื่อ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่นไฮไลต์ รุ่น Black Warrior ได้ยกมาตรฐานใหม่และสร้างความแตกต่างให้แก่วงการรถยนต์เอสยูวีพรีเมียม 7 ที่นั่ง ถึงความพรีเมียมเกินคาดที่ครอบคลุมทุกด้านเทียบเท่ารถยุโรป โดยเฉพาะด้านดีไซน์ภายนอกและภายใน เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และขุมพลังดีเซล 2.4T เจนใหม่ล่าสุด ที่คิดค้นโดย GWM ซึ่งได้หลอมรวมสู่การเป็นยนตรกรรมเพื่อผู้นำยุคใหม่ โดยเฉพาะสีพิเศษอย่าง Black Warrior 2 รุ่น ทั้ง 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD
รุ่นพิเศษ Black Warrior มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นด้วยสีดำล้วนและเส้นสายที่เฉียบคม หนักแน่น สีตัวถังพิเศษแบบสีดำเงาลึกแบบ Black Warrior ช่วยขับให้มิติของรถดูหนักแน่นยิ่งขึ้น กระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่พร้อมโลโกสีดำ ไฟหน้าและไฟท้ายแบบรมดำ กรอบประตูสีดำ เสริมด้วยล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง Continental ขนาด 265/50 R20 และยางอะไหล่ เพิ่มความพรีเมียมด้วยวัสดุตกแต่งคุณภาพสูง เช่น เบาะหนัง Nappa เบาะนวดไฟฟ้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า และระบบระบายอากาศที่นั่งด้านหน้าและแถวสอง พร้อม Ambient Light เสริมบรรยากาศภายในห้องโดยสาร และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ล้ำสมัยด้วยหน้าจอคู่แบบอินเทอร์แอคทีฟขนาดใหญ่สูงสุด 14.6 นิ้ว พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง 12 ตำแหน่ง ระบบชาร์จไร้สาย 50W และระบบควบคุมด้วยเสียงรองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ กระจกสองชั้นแบบ Double Layer Laminated Glass และระบบ Active Noise Cancellation ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก
พรีเมียมเหนือระดับด้วยขุมพลังดีเซล 2.4T เจนฯ ใหม่ล่าสุด ที่มอบสมรรถนะอันทรงพลังด้วยพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่มาในรอบต่ำเพียง 1,500-2,500 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ที่เปลี่ยนเกียร์สูงได้แม้ในความเร็วต่ำ ตอบสนองได้ฉับไวในทุกการขับขี่ นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นิ่ง เงียบ และนุ่มนวล เหนือรถเอสยูวีด้วยกัน ผ่านการออกแบบการจัดการ NVH (Noise, Vibration, Harshness) ส่งผลให้ห้องโดยสารเงียบสงบแม้ขณะขับผ่านพื้นผิวที่ขรุขระ หรือวิ่งด้วยความเร็วสูง ทั้งยังพัฒนาโครงสร้างตัวถังแบบ Body-on Frame ซึ่งออกแบบขึ้นเฉพาะสำหรับตระกูล GWM TANK พร้อมโหมดการขับขี่ที่ครอบคลุม โดยรุ่น 2.4T ULTRA มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ, สปอร์ต และประหยัดน้ำมัน ขณะที่รุ่น 2.4T ULTRA มีมาถึง 8 โหมด ครอบคลุมทุกสภาพเส้นทางทั้งออนโรดและออฟโรด พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย Tank Turn, Off Road Cruise Control และระบบล็อกเฟืองหน้า-หลัง เพื่อควบคุมรถที่แม่นยำ
NEW GWM TANK 500 DIESEL วางจำหน่ายใน 3 รุ่นย่อย ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ พร้อม 3 สีภายนอก สีขาว, สีเทา และรุ่นตกแต่งพิเศษ Black Warrior (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD) ในราคาแนะนำในช่วงการเปิดตัวสำหรับลูกค้าที่ออกรถ 500 ท่านแรก พร้อมข้อเสนอพิเศษ ดังนี้ รุ่น 2.4T PRO ราคา 1,399,000 บาท, รุ่น 2.4T ULTRA ราคา 1,499,000 บาท และรุ่น 2.4T ULTRA 4WD ราคา 1,599,000 บาท (สีพิเศษ Black Warrior ในรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD มีราคาเพิ่มจากรุ่นปกติ 30,000 บาท)