‘IM6’ ใหม่..แรง เพิ่มทางเลือก เทคโนโลยีบีอีวี วิ่งไกล 750 กม.

เอ็มจี สานต่อ NEW MG IM6 สอดรับกระแสผู้บริโภคด้วยยอดส่งมอบไปแล้วกว่า 1,000 คันพร้อมเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ Premium Long Range ชูภาพลักษณ์บีอีวีพรีเมียมที่ผสมผสานด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตอบโจทย์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมด้วยระยะทางวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 750 กม. ภายใต้ราคาจำหน่าย 1,490,000 บาท มาพร้อม Lifetime Warranty ตลอดอายุการใช้งาน พร้อมเดินหน้าสร้างเครือข่าย อีวี อีโคซิสเต็ม อย่างครบวงจร ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความไว้วางใจ
ความแข็งแกร่งของ เอ็มจี อยู่ที่การเป็นแบรนด์ที่ก้าวล้ำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยในรถยนต์ที่หลากหลายรุ่น ทั้งในด้านขุมพลัง เทคโนโลยีความปลอดภัย และการเชื่อมต่อกับผู้ขับขี่ นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อีวี อีโคซิสเต็ม อย่างครบวงจร และเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ เอ็มจี เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดรถยนต์ประเทศไทย
จากวันนั้นถึงวันนี้ ส่งผลให้ เอ็มจี กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์จากแดนมังกรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดหากเทียบกับค่ายรถยนต์จากสัญชาติเดียวกัน ซึ่งปัจจุบัน เอ็มจี สามารถก้าวขึ้นอันดับ 1 ด้วยยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ประจำเดือนสิงหาคม 2568 ด้วยตัวเลขสูงถึง 2,230 คัน ส่งผลให้ยอดรวมรถยนต์ไฟฟ้าเอ็มจีในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม–สิงหาคม) เติบโตกว่าปี 2567 มากกว่า 70% ตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 12 ปี
เอ็มจีเผยว่า ยอดจดทะเบียนรวมทุกรุ่นในเดือนสิงหาคม อยู่ที่ 2,615 คัน โดยมี NEW MG4 ELECTRIC เป็นรุ่นยอดนิยมที่เคยครองอันดับ 1 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NEW MG S5 EV และ NEW MG IM6 ช่วยต่อยอดภาพลักษณ์รถอีวีคุณภาพที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ยอดรวมทั้งปีจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมสูงถึง 15,783 คัน
ล่าสุด เอ็มจี ยังได้เปิดตัว NEW MG IM6 รุ่นย่อย Long Range ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มพรีเมียมอีวี ด้วยจุดขาย “ชาร์จไวกว่าและวิ่งไกลที่สุดในคลาส” ซึ่งรุ่นใหม่นี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 750 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมระบบขับเคลื่อนแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จไฟ DC สูงสุด 396 kW ชาร์จจาก 10-80% ได้ในเวลาเพียง 18 นาที ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยวหลัง ให้กำลังสูงสุด 407 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร เสริมภาพลักษณ์ด้วยล้ออัลลอยแอโร่ ขนาด 20 นิ้ว
ด้านฟังก์ชันยังครบครันด้วยเทคโนโลยี IM Digital Chassis ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ, ระบบ One Touch iAD Auto Parking Assist ช่วยจอดและออกจากพื้นที่จำกัดอัตโนมัติ, One Touch Reverse ถอยกลับได้สูงสุด 100 เมตร รวมถึงแพ็กเกจความปลอดภัย Advanced Synchronized Protection System ที่ผ่านมาตรฐาน China NCAP 5 ดาว และออกแบบให้รองรับมาตรฐาน Euro NCAP ในอนาคต
การเปิดตัว NEW MG IM6 Premium Long Range รุ่นย่อยใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดจากกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมของ NEW MG IM6 ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยวางจำหน่ายแล้ว 2 รุ่นย่อย คือ Premium 2WD และ Performance AWD ซึ่งต่างได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง
พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในช่วงครึ่งปีหลังของ เอ็มจี กับการเปิดตัว NEW MG IM6 รุ่นย่อยใหม่นี้ ถือเป็นหนึ่งในโมเดลสำคัญทางยุทธศาสตร์ในการทำตลาดของ เอ็มจี โดยตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมีนาคม ได้ส่งมอบถึงมือลูกค้าแล้วกว่า 1,000 คัน กับรุ่น Premium 2WD และ รุ่น Performance AWD ได้กระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมอีวีในเรื่องความอัจฉริยะและความเป็นที่สุดของรถในกลุ่มนี้ ทั้งระบบเลี้ยวสี่ล้อ อัตราเร่งที่โดดเด่น และฟังก์ชันพรีเมียม ที่จัดเต็มมาตั้งแต่รุ่น Premium 2WD”
“การเพิ่มรุ่นย่อยใหม่นี้ เอ็มจี ได้รับฟังเสียงจากผู้บริโภคและต้องการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยากได้รถไฟฟ้าที่ขับได้ไกลสูงสุดถึง 750 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง และชาร์จได้ไวสูงสุด 396 kW* เพื่อความคล่องตัวในการเดินทางระยะไกล ทำให้ NEW MG IM6 Premium LONG RANGE กลายเป็นทางเลือกที่โดดเด่น และน่าจับตามองในตลาด ตอบโจทย์ทุกความกังวลสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหารถไฟฟ้าคันที่สามารถใช้งานเป็นหลักของบ้านได้ นอกจากการเปิดตัวรุ่นย่อยแล้ว เอ็มจี ยังได้เพิ่มเติมสีใหม่สำหรับ NEW MG IM6 ทุกรุ่นย่อย โดยรุ่น Premium Long Range จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1490,000 บาท
และนอกเหนือจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าให้กับลูกค้าชาวไทยแล้ว เอ็มจี ยังมอบความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานผ่าน Lifetime Warranty สำหรับแบตเตอรี่แรงเคลื่อนสูง มอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุม ตลอดอายุการใช้งาน พร้อมคลังอะไหล่ที่ส่งได้ภายใน 24 ชั่วโมง และโชว์รูม-ศูนย์บริการกว่า 125 แห่งทั่วประเทศ และยังมีแผนขยายเครือข่ายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย