‘GWM’ โชว์วิสัยทัศน์ ขับเคลื่อนสู่อนาคต

GWM ร่วมแสดงศักยภาพและวิสัยทัศน์ เจาะลึกเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนรถยนต์พลังงานใหม่และแนวโน้มในอาเซียน เปิดมุมมองเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง แนวโน้มยานยนต์พลังงานใหม่ พร้อมชูเทคโนโลยีอัจฉริยะ Hi-4
GWM (Thailand) เข้าร่วมแสดงศักยภาพและวิสัยทัศน์ในงาน International NEV Summit 2025 ครั้งที่ 3 โดยนายชาญศักดิ์ หลายเจริญโชคชัย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้บรรยายพิเศษในประเด็นเจาะลึกเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนของรถยนต์พลังงานใหม่และแนวโน้มในอาเซียน โดยเปิดมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง (Powertrain) แนวโน้มยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) และพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศไทย รวมถึงภูมิภาคอาเซียน พร้อมชูเทคโนโลยีระบบส่งกำลังอัจฉริยะ Hi-4 ที่พลิกโฉมประสบการณ์ขับขี่
นายชาญศักดิ์ หลายเจริญโชคชัย วิเคราะห์ข้อมูลถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคอาเซียนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีแรงผลักดัน แรงหนุนจากนโยบายภาครัฐ รวมถึงนโยบายสำคัญจากประเทศจีน ในการกระตุ้นการผลิตรถยนต์ BEV, PHEV และ FCEV ส่งผลให้จีนกลายเป็นผู้นำในด้าน NEV และคาดว่าภายในปี 2573 สัดส่วนของ BEV และ PHEV ในตลาดจีนจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดย GWM มุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในระยะยาว จากข้อมูลปี 2567 ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียน มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 14% เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ประมาณ 5% สำหรับประเทศไทย GWM เล็งเห็นว่ารถยนต์พลังงานใหม่จะเติบโตจาก 35% ในปี 2567 ไปอยู่ที่ 45% ของตลาดรถยนต์รวม ซึ่งสูงกว่าในภูมิภาคอาซียน โดยแบ่งเป็น รถยนต์ไฮบริด 23% รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ 18% และรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด 4%
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญจาก GWM ในการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ คือการนำเสนอเทคโนโลยี GWM Hi4 Technology System หรือกลยุทธ์การออกแบบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบไฮบริดที่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์การใช้งาน ครอบคลุมตั้งแต่รถครอบครัวในชีวิตประจำวัน รถ SUV ขนาดใหญ่ รถออฟโรดอัจฉริยะ โดยระบบ Hi4 Technology แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามระดับสมรรถนะ และการใช้งาน
Hi4 ระบบไฮบริดขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบไฟฟ้า ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด มอเตอร์คู่ และโครงสร้างไฮบริดแบบ DHT หลายเกียร์ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบแยกอิสระ และระบบล็อกเฟืองขับ โดยมีโหมดการขับเคลื่อน 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดขยายระยะทาง, โหมดขับเคลื่อนแบบขนาน และโหมดขับเคลื่อนโดยตรง ซึ่งสลับการใช้งานได้อย่างชาญฉลาด เหมาะกับทุกสภาพการขับขี่ ใช้ในรุ่น HAVAL H7, HAVAL Xiaolong MAX, HAVAL Menglong และ WEY 80
Hi4-Z ระบบไอบริดที่รองรับการขับขี่แบบออฟโรด มาพร้อมเคริ่องยนต์ไฮบริดพละกำลังสูง มอเตอร์คู่ด้านหน้าและหลังกำลังสูงที่วางในแนวตรงปรับความเร็วได้ 3 ระดับ แบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ และโครงสร้างตัวถังบนเฟรม รองรับการเดินทางทุกเส้นทาง ใช้ในรุ่น GWM TANK 500 Hi4-Z
Hi4-T ระบบไฮบริดขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการขับขี่ออฟโรดแบบฮาร์ดคอร์ แบบ Mechanical 4WD พร้อมล็อกเฟืองขับ 3 จุด (หน้า กลาง หลัง) มีให้เลือกทั้งขุมพลัง 2.0T และ 3.0T มอเตอร์ด้านหน้าจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9HAT ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของแพลตฟอร์ม TANK สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร พร้อมโหมดการขับขี่แบบออฟโรดมากถึง 16 รูปแบบ รองรับทุกสภาพภูมิประเทศ ใช้ในรุ่น TANK 300 Hi4-T, TANK 400 Hi4-T, TANK 500 Hi4-T และ TANK 700 Hi4-T
การเข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นของ GWM ในการยกระดับนวัตกรรมยานยนต์พลังานใหม่ให้ก้าวไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด GWM Go With More ที่ไม่หยุดอยู่แค่การพัฒนาเทคโนโลยี GWM เชื่อว่าเทคโนโลยี Hi-4 คืออีกก้าวสำคัญที่จะพลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่ยานยนต์พลังงานใหม่ ให้เหนือกว่าที่เคย และนิยามอนาคตแห่งการเดินทางยุคใหม่อย่างแท้จริง