“รามอินทรา” ยกนิ้วให้ 659 สิ้นสุดทางเลื่อน เส้นทาง…แห่ง “เนต้า” ความเชื่อมั่น…ที่ผุกร่อน

ข่าวคราวของรถไฟฟ้าเนต้า น่าจะเป็นข่าวที่ทำให้คนไทยต้องมองรถไฟฟ้า อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น ก้อ…อย่างที่ “รามอินทรา” เคยเขียนไว้…จีนพิฆาตจีน บนเส้นทางการดำเนินธุรกิจ ที่ต้องบอก…แตกต่างจากรถน้ำมันโดยสิ้นเชิง เส้นทางของรถญี่ปุ่นนั้น เติบโตในเมืองไทย แบบมีระบบมีขั้นมีตอน “คนญี่ปุ่น” นั้น เรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นคนไทย ยอมรับและเข้ามามีส่วนร่วม แต่ละยี่ห้อกว่าจะยืนระยะให้คนไทยยอมรับนั้น ต้องใช้เวลาใช้ความจริงใจเป็นฐานสำคัญ หลายบริษัทคนทำงานที่เป็นคนญี่ปุ่น เข้ามาทำงานแบบเรียนรู้และยอมรับในวิถีดั้งเดิม ไม่ฝืนไม่ใช้ความเป็นเจ้าของ สร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง ยอมรับและใช้ทีมงานคนไทยเป็นแกนหลัก รวมถึงการเข้าถึงธรรมชาติของคนขายทั่วประเทศ การเดินเข้ามาคุย และทำความเข้าใจ จนทำให้ประสบความสำเร็จ ที่มีคนไทยเป็นฐานสำคัญ
รถไฟฟ้า…โดยคนจีนเข้ามาแบบเรียงลัด ใช้วิถีความเป็นตัวเองเข้ามาเป็นรากฐาน พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง คนไทยที่เป็นคนทำงานก็หมดความหมาย รวมถึงการใช้ “คนจีน” เข้ามามีบทบาทสำคัญ เป็นคนกำหนดทิศทาง ไม่สนใจวิถีแห่งธรรมชาติของคนไทย ทุกกลยุทธ์คือการสั่งคือการกำหนด โดยคิดว่า…คนไทยเป็นคนง่ายๆ จะทำอะไรก็ได้ ก้อ…ไม่แปลกใจที่จะได้ยินข่าว…คนไทยไม่เคยทำงานได้อย่างมั่นคง คนไทยไม่มีสิทธิ์มีเสียงทุกอย่างเป็นกรอบที่ถูกกำหนดโดยคนจีน ที่วิถีการทำงานวิถีแห่งความผูกพันนั้น แตกต่างโดยสิ้นเชิง ทำให้วันนี้…เริ่มได้ยินข่าวคราวของการเปลี่ยนแปลงเฉกเช่นรถยนต์เนต้า ไหวก็อยู่ ไม่ไหวก็ไป ไม่สนใจว่า…คนที่เป็นเจ้าของรถยนต์ที่คุณเป็นคนขายนั้น จะต้องเจอะเจออะไร รถยนต์ราคา 5 – 6 แสนบาท ต้องกลายเป็นแค่ เศษเหล็กกับแบตเตอรี่ก้อนใหญ่ๆ ก้อนหนึ่ง สุดท้าย…ใครจะรับผิดชอบ สุดท้าย…ใครจะช่วยดูแลหัวใจคนเป็นเจ้าของรถยนต์รถยนต์เนต้า
“รามอินทรา” เขียนบ่อยครั้งว่า คนไทยนั้นเชื่อง่ายแต่ก็ลืมยาก คนที่เป็นเจ้าของรถยนต์เนต้า เค้าเชื่อคุณ เค้าพร้อมที่จะเอาเงินแสนมาซื้อความเชื่อมั่น เมื่อวันนี้แตกต่างจากวันวาน เชื่อมั้ย? ทุกคนจะว่าพวกคุณไปจนวันตาย อย่าลืม…คนเป็นหมื่นคนที่เป็นเจ้าของรถยนต์เนต้า จะเป็นคนที่พูดถึง… “รถไฟฟ้า” ในด้านไหน คงชื่นชมมั้ง บอกแล้ว…เชื่อง่ายแต่ลืมยาก เจ็บนี้อีกนาน และอาจจะวางไปถึงรถไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ ที่วันนี้ก็เริ่มจะลดราคาแบบไม่มีเหตุผล สิ่งที่น่าสนใจ…คนทำงานคนไทยหลายๆคนก็เริ่มทยอยกันถอยออกมา ด้วยวิถีการทำงานที่รับไม่ได้ เพราะสุดท้ายยังไงคนก็ไม่ใช่เครื่องจักร คนไม่มีอะไหล่ คนไม่มีแบตเตอรี่ คนก็ยังต้องมีความเป็นคน “รามอินทรา” ยกนิ้วให้กับรถยนต์ญี่ปุ่นที่ยังไงก็ยังมีความจริงใจชัดเจนกว่า การใช้เวลาเป็นสิบๆปีคือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายใครที่จริงใจและน่าเชื่อถือกกว่ากัน
ใครควรได้รับการยกนิ้วให้อย่างจริงใจ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
25 มิถุนายน 2568