“อูรุส” ปลั๊ก-อิน รุ่นแรก เขย่าตลาดซูเปอร์เอสยูวี

เรนาสโซ มอเตอร์ เปิดตัว ลัมโบร์กินี อูรุส เอสอี ซูเปอร์เอสยูวีขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นแรกของแบรนด์ในตลาดประเทศไทย เป็นที่แรกในภูมิภาคอาเซียน ชูความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปโฉมและสมรรถนะการขับขี่ โชว์วิวัฒนาการของซูเปอร์เอสยูวีในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายใต้ราคาเริ่มต้น 24,980,000 บาท
เรนาสโซ มอเตอร์ ภายใต้บทบาทของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัว ลัมโบร์กินี อูรุส เอสอี ซูเปอร์เอสยูวีระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด รุ่นแรกของลัมโบร์กินี เป็นที่แรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำเสนอดีไซน์รถยนต์แนวใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ที่เหนือชั้น และระบบส่งกำลัง 800 CV ซึ่งเป็นรุ่นท็อปในตระกูลอูรุส ทั้งในด้านความสบาย ประสิทธิภาพการขับขี่
มร.ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า “ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอ อูรุส เอสอี ในประเทศไทย เพราะได้นำเราเข้าสู่ยุคใหม่แห่งวิวัฒนาการรถยนต์ซูเปอร์เอสยูวีในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้า และยังเป็นก้าวสำคัญของลัมโบร์กินี ซึ่งผมเชื่อมั่นว่ารถยนต์รุ่นนี้จะสร้างนิยามใหม่ให้แบรนด์ของเราได้ก้าวไปอีกขั้น ตลอดจนร่วมปฏิวัติโลกยานยนต์ด้วยซูเปอร์เอสยูวี อันเป็นเอกลักษณ์ของเรา”
ด้าน นายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายรถยนต์
ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “หลังจากลัมโบร์กินีได้เผยโฉม อูรุส เอสอี พร้อมกันทั่วโลกในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ในวันนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่สาวกกระทิงดุในเมืองไทยจะได้ยลโฉม อูรุส เอสอี คันจริงเป็นครั้งแรกอย่างใกล้ชิด ซึ่งเรามั่นใจว่ายนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์ทุกประสบการณ์การขับขี่และได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ลัมโบร์กินีทั่วประเทศอย่างแน่นอน”
สำหรับดีไซน์ของ อูรุส เอสอี สะท้อนถึงรูปทรงแบบพลศาสตร์ที่เน้นภาพลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตและความแข็งแกร่งบึกบึนได้อย่างโดดเด่น ส่วนหน้าหรูหราด้วยการออกแบบฝากระโปรงทรงใหม่แบบ Floating Design ลบเส้นสายที่เป็นตัวแบ่งส่วนต่างๆ ทิ้งไป เสริมด้วยองค์ประกอบใหม่ๆ ทั้งชุดไฟหน้าที่ใช้เทคโนโลยี Matrix LED ซึ่งเป็นดีไซน์ซิกเนเจอร์ใหม่ล่าสุดที่มีแรงบันดาลใจมาจากหางวัวกระทิงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ลัมโบร์กินี รวมถึงการออกแบบส่วนกันชนท้ายและตะแกรงหน้าใหม่
ภายในห้องโดยสารนำเสนอฟีเจอร์ใหม่บริเวณแผงหน้าปัดด้านหน้า มาพร้อมหน้าจอขนาด 12.3 ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นเดิม ติดตั้งไว้บริเวณกลางแผงหน้าปัดและมอบการแสดงผลกราฟิก Human Machine Interface (HMI) เวอร์ชันใหม่ที่ใช้งานได้ง่ายดายและเป็นธรรมชาติ ทั้งยังให้ความสำคัญกับการออกแบบท่อลม โดยตกแต่งด้วยวัสดุอะลูมิเนียมเคลือบผิวในรูปทรงตัว Y อันเป็นเอกลักษณ์ และยังหุ้มส่วนบานตกแต่ง แผงหน้าปัด เบาะนั่งด้วยวัสดุใหม่ นอกจากนี้ ยังออกแบบแผงปุ่มกดแบบกลไกเพื่อให้ได้สัมผัสของการกดที่สมจริง
มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 4.0 ผสานการทำงานร่วมกับ มอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร ซึ่งทีมวิศวกรได้ปรับจูนการทำงานให้สอดคล้องกันระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในกับมอเตอร์ไฟฟ้า ตอบสนองการใช้งานในทุกโหมดการขับขี่และสภาพพื้นผิวถนน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 ระดับ สามารถช่วยบูสต์เครื่องยนต์และสร้างแรงฉุดส่งผลให้ อูรุส เอสอี เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยระบบไฟฟ้า 100% ที่เดินทางได้กว่า 60 กิโลเมตร เมื่อขับขี่ภายใต้โหมดไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว