“บีอีวี” ร้อน “อัตโต ทรี” แรง เดินหน้าขยายเครือข่ายรองรับลูกค้า

บีวายดี อัตโต ทรี ขึ้นแท่นเจ้าตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (บีวีอี) ด้วยยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 19,214 คัน ครองส่วนแบ่งทางตลาดมากกว่า 25% จากภาพรวมของตลาดบีอีวีในปีที่ผ่านมา ที่ขยายสัดส่วนเพิ่มเป็น 12% จากภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายและศูนย์บริการ รองรับการใช้งานของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเวลาที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นเทรนด์ของรถยนต์ในยุคปัจจุบัน ด้วยความนิยมจากผู้บริโภคที่ให้ความสนใจและเลือกจับจองเป็นเจ้าของ ส่งผลให้รถยนต์ทางเลือกใหม่เติบโตแบบก้าวกระโดด เป็นแรงกระตุ้นให้บรรดาค่ายผู้ผลิตกระโดดร่วมวงบีอีวี โดยเฉพาะค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีน ที่ตบเท้าเรียงแถวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เนื่องด้วยมาตรการด้านภาษีจากภาครัฐบาล ที่กระตุ้นการตัดสินใจจากทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค
บีวายดี เป็นหนึ่งในค่ายผู้ผลิตแดนมังกร ที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตลาดบีอีวี ภายใต้ชายคา เรเว่ ออโตโมทีฟ ที่รับบทผู้จัดจำหน่ายและงานบริการหลังการขาย ประเดิมตลาดประเทศไทยด้วย บีวายดี อัตโต ทรี รถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า ที่เข้ามาเขย่าตลาดบี-เซ็กเมนต์ โดยเผยโฉมเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมปี 2022 ก่อนจะเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของในเดือนถัดมา
โดย นายประธานวงศ์ พรประภา กล่าวในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ว่า “การเปิดตัว บีวายดี อัตโต ทรี ในวันนี้ นับเป็นก้าวสำคัญที่ เรเว่ ออโตโมทีฟ ได้นำเทคโนโลยีและยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่มาเพื่อสร้าง NEV Ecosystem ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับคนไทย เป็นหนึ่งในพันธกิจในการผลักดัน Zero Emission ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม”
“บีวายดี อัตโต ทรี ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น แต่สิ่งที่ เรเว่ ออโตโมทีฟ อยากสื่อสารไปถึงคนไทยทุกคน นั่นคือ ENERGY AWAKEN เรามองว่าถึงเวลาแล้วที่จะปลุกคนไทยทุกคนให้ตระหนักว่า การใช้พลังงานใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นสามารถสร้างชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเรา แต่หมายถึงทุกสิ่งรอบตัวเราจะดีขึ้น”
ด้วยความโดดเด่นในเรื่องของรูปโฉม รวมถึงสมรรถนะการใช้งานที่ครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานตามยุคสมัย บวกกับราคาค่าตัวที่จับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่งผลให้ บีวายดี อัตโต ทรี มาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากผู้บริโภค นับตั้งแต่เปิดให้จับจองในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน และเดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดได้อย่างต่อเนื่อง และมีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา เพิ่มสัดส่วนขึ้นไปมากกว่า 10% จากภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปิดตลาดราว 780,000 คัน
จากการตอบรับที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้ บีวายดี อัตโต ทรี ครองเจ้าตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปีที่ผ่านมาด้วยยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 19,214 คัน ครองสัดส่วนมากถึง 25.18% ในเซ็กเมนต์บีอีวี เหนือกว่า เนต้า วี ที่รั้งอยู่ในอันดับ 2 กว่า 7,000 คัน รวมถึง บีวายดี ดอลฟิน รถรุ่นที่ 2 ของบีวายดี ในตลาดประเทศไทย ที่สามารถเรียกกระแสนิยมและเก็บเกี่ยวยอดขายขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 หลังเปิดตัวในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ด้วยยอดขายสะสม 9,410 คัน ครองสัดส่วน 12.33%
โดยทิศทางของแบรนด์บีวายดี ในประเทศไทย สอดคล้องกับภาพรวมในตลาดโลกด้วยเช่นกัน โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ค่ายบีวายดี สามารถเก็บเกี่ยวยอดขายได้เหนือกว่าเจ้าตลาดอย่าง เทสล่า ด้วยยอดขายกว่า 520,000 คัน ในขณะที่แบรนด์ดังจากอเมริกา มียอดขายทั้งสิ้นราว 480,000 คัน ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ทว่าโดยภาพรวมยังคงเป็น เทสล่า ที่ครองเจ้าตลาด
นอกจากการนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ลงสู่ตลาด ไล่เลียงจาก ดอลฟิน มาจนถึง ซีล ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของแบรนด์บีวายดี ในตลาดประเทศไทย การเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายและศูนย์บริการเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ เรเว่ ออโตโมทีฟ ขับเคลื่อนควบคู่กันมา เพื่อรองรับการขยายตัวของผู้บริโภค ในปัจจุบันพร้อมให้บริการทั้งสิ้น 100 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ โดย 40% อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนอีก 60% กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ
สำหรับ บีวายดี อัตโต ทรี คือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์บีวายดีในตลาดประเทศไทย มาพร้อม 2 รุ่นทางเลือกได้แก่ Standard Range และ Extended Range ดีไซน์ภายนอกได้รับแรงบันดาลใจจากมังกร ด้านหน้าโดดเด่นด้วย Crystal LED Combination Headlight คาดคิ้วโครเมียม เสาซีวัสดุขึ้นรูปลายคลื่นน้ำคล้ายเกล็ดมังกร หลังคา Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ด้านหลังสโลปลงพร้อมสปอยเลอร์ ไฟท้าย LED คาดยาวซ้ายจรดขวา ไฟเลี้ยว Sequential เปิด-ปิดประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้าแบบ One-Touch
ภายในห้องโดยสารผสานความหรูหรา โฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยสายกั้นสัมภาระสีแดงที่แผงประตู รูปทรงช่องแอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดัมเบล ก้านมือจับประตูแบบ Grip Style และที่พักแขนขนาดใหญ่สไตล์ Treadmill เบาะนั่งคู่หน้าโอบรับสรีระแบบ gaming Seat มาพร้อมหน้าจอกลางขนาด 12.8 นิ้ว สามารถหมุนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจาก BYD Blade Battery (LFP) ความจุ 60.48 กิโลวัตต์ชั่วโมง รีดพละกำลังสูงสุด 201 แรงม้า สร้างแรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 480 กิโลเมตร ในรุ่น Extended Range และ 410 กิโลเมตร ในรุ่น Standard Range รองรับหัวชาร์จ แบบ AC Type 2 และแบบ DC – CCS 2 สูงสุด 80 กิโลวัตต์ มีระบบ V2L (Vehicle To Load) จ่ายไฟฟ้าได้สูงสุด 2.2 กิโลวัตต์ พร้อมระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่