หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 994 ประจำวันที่ 3-9 ตุลาคม 2565 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับวังวนแห่งความคึกคักที่เห็นชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะความคึกคักแห่งการขยับของยอดจอง โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ที่ใครอยากเป็นเจ้าของวันนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อยอดจองยังคงไหลลื่นอย่างต่อเนื่อง ก้อ…ดีใจแทน “คนยานยนต์” ที่อย่างน้อย “รถน้ำมัน” ยังคงเป็นที่หมายปองของคนไทย แม้กระแสรถไฟฟ้าจะมาแรง เพราะเป็นการแท็กทีมของเมดอินไชน่า ที่ยกทีมมากันถึง 4 ยี่ห้อ เอ็มจี เกรท วอลล์ Neta และบีวายดี ก้อ…ต้องติดตามเวลาที่เหลือของปี 65 เมื่อทุกค่ายเปิดตัวกันครบแล้ว จะเป็นเยี่ยงไร? …*** “รามอินทรา” แวะเช็กข่าวคนยานยนต์ ก้อ…อย่างที่เขียนไว้ เป็นช่วงเวลาของค่ายรถยนต์ นอกจากความร้อนแรงแห่งเอทีฟแล้ว ต้องยินดีกับค่ายมาสด้า ที่นอกจากจะโอเคกับรถยนต์มาสด้า CX-8 ที่ขายได้มากกว่าปกติแล้ว ยังขายได้ขายดีทุกรุ่น ก้อ…ไม่แปลกใจกับยอดขาย 8 เดือน ที่ทำให้ “เฮียหน้าดุ” ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ หายเหนื่อย แม้จะต้องเดินสายแบบเหนื่อยไม่เป็น แต่…สุดท้ายก็จะหายเหนื่อยโดยอัตโนมัติ เพราะ “มาสด้า” มีรถที่จอดเรียงแถวเป็นตัวเลือกของคนไทย แบบหลับตาเลือก…*** แต่…ค่ายนี้ “รามอินทรา” ออกอาการน่าเป็นห่วง ก้อ…รถยนต์มิตซูบิชิ ที่วันนี้…ต้องบอก “นายญี่ปุ่น” มร.เออิอิชิ โคอิโตะ ถ้ายังไม่สามารถขับเคลื่อนได้มากกว่านี้ เมื่อถึงสิ้นปี 65 ตัวเลขสวยๆ คงไม่ได้เห็น สิ่งสำคัญ… “งานพีอาร์” ใครว่าไม่สำคัญ “รามอินทรา” ยังอยากเห็น “คนไทย” มีบทบาทมากกว่า เขียนยังงี้…ไม่ได้หมายความว่า “คนไทย” เก่งกว่า “คนญี่ปุ่น”  แค่อยากบอก…ที่นี่ประเทศไทย งานพีอาร์นั้น…ยังไงก็ต้องใช้บริการคนไทย ตั้งแต่หัวแถว รวมถึงการ “เลือกคน” มาทำงาน อย่าเลือกแต่เน้นภาษาเพียงอย่างเดียว ประสบการณ์ก็ต้องมากับคำว่าใช่อีกด้วย ด้วยรักและห่วงใยนะครับ “นายญี่ปุ่น” …*** นี่ก็ทำให้เป็นงง… “ค่ายฮอนด้า” ที่วันนี้…เหมือนจะไม่ค่อยสนใจกับการนำเสนอข่าวคราว โดยเฉพาะข่าวคราวของ “คนบริหาร” ถ้าจำไม่ผิด “รามอินทรา” แทบจะไม่ได้รับรู้ข่าวของ “นายญี่ปุ่น” มร.อิซาโอะ เซคิกุจิ รวมถึงความคึกคักแห่งการขับเคลื่อนทัพรถยนต์ฮอนด้า ที่เป็นตัวไม่คึกคักเหมือนเช่นวันวาน เพียงแต่ยังโอเค…ที่แบรนด์ฮอนด้านั้น…ยังได้รับความไว้วางใจจากคนไทย แค่เปิดตัวและเป็นข่าว ก้อ…จะได้รับความสนใจโดยอัตโนมัติ ทำให้ “ยอดขาย” ยังคงไร้ปัญหา หรือเป็นเพราะเหตุนี้ ทำให้การขับเคลื่อน…ยังไงก็ได้…*** แวะเวียนไปที่ค่ายสองล้อกันบ้าง ก้อ…ไม่รู้ “รามอินทรา” คิดเองหรือไม่? หลังการรวมบริษัท เหมือนบทบาทคนทำงานที่เป็นคนไทยจะถูกลดลง หรือไม่? ก็อาจเป็นเพราะวันนี้กับวันวานแตกต่างกันไป ยอมรับ…แทบจะไม่ได้เจอะเจอใครบ่อยครั้งเหมือนเช่นวันวาน รวมถึงการขยับขับเคลื่อน ก้อ…เป็น “นายญี่ปุ่น” มากกว่า ทั้งหัวแถวและคนรอง เมดอินเจแปน ส่วนคนไทย ก้อ…แค่ 2 คน ยังโอเคที่พอจะคุ้นเคยกับ “คุณอา” อารักษ์ พรประภา แต่ระยะหลังก็เหมือนจะลดบทบาทลงอีกด้วย เขียนยังงี้…อาจผิดจากความเป็นจริง ก้อ…ต้องขออภัย…*** แตกต่างจากฝั่ง “ไทยยามาฮ่า” ที่ชัดเจนยิ่งถึงบทบาททั้งของ “เฮียหมู” พงศธร เอื้อมงคลชัย และ “เสี่ยเจมส์” ภาณุพล กิตติคำรณ สลับกันเจอ “คนสื่อ” มีบทบาทหน้าที่ชัดเจน โดยมี “นายญี่ปุ่น” สอดแทรกบ้าง แต่… “รามอินทรา” กลับรู้สึกถึงความชัดเจนแห่งบทบาทที่จับต้องได้ ก้อ…น่าจะคิดเองเออเองอีกแหละ เพราะกริ๊งกร๊างไปหาเมื่อไหร่ ก้อ…มักจะได้คุยกันตัวเป็นๆ โดยไม่ติดประชุม…*** ย่อหน้าสุดท้าย… “รามอินทรา” ขอบคุณ “คนยานยนต์” ที่ยังคงกริ๊งกร๊างมาคุยกัน แม้วันนี้กับวันวานจะแตกต่างกันบ้าง เหลือคนคุยด้วยน้อยลง แต่ก็ไร้ปัญหา…เพราะยังคงเจอะเจอได้ตามหน้าจอสี่เหลี่ยม ก้อ…แอบเช็กข้อมูลหาข่าวตามประสาคนไม่ค่อยรู้เรื่องของโลกการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไป ที่สำคัญ…วันนี้ยอมรับ… “รามอินทรา” รู้สึกตัวเล็กลง เพราะมีคนใหญ่คนโตเยอะขึ้นทุกวัน แถมยังไม่ค่อยสนิทสนมกับใครอีกด้วย…*** “รามอินทรา” ฝากข่าวเพื่อนพ้องน้องพี่ “กรังด์ปรีซ์กรุ๊ป” เริ่มจาก กรังด์ปรีซ์, มอเตอร์ไซค์, ออฟโรด, XO autosport และ Garage Life พลาดไม่ได้ทุกเล่ม เลือกซื้อกันได้ทั่วประเทศเลยพบกันใหม่ฉบับหน้า…สวัสดีครับ