เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) เผยยอดขายไตรมาสแรกของปี เติบโตเพิ่มขึ้น 11% ด้วยยอดขายรวม 8,394 คัน พร้อมตอกย้ำบทบาทผู้นำยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โกยยอดจอง 4,500 คัน ภายใน 1 เดือน หลังเข้าร่วมนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยจะเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้านับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป และคาดว่าตลาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ของปี

เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) เผยผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2565 ปิดตัวเลขยอดขายรวมทั้งสิ้น8,394 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่โตเพิ่มขึ้นถึง 24% ยังสามารถกวาดยอดจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ได้กว่า 4,500 คัน ภายใน 1 เดือน หลังเข้าร่วมนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภาครัฐ พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยการเปิดรับจองรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มทยอยส่งมอบรถตามกำหนดเดิม นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วงต้นปีนี้ มีความคึกคักมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากงานมอเตอร์โชว์ โดยในไตรมาสแรก เอ็มจี สามารถทำยอดขายรวมได้ถึง 8,394 คัน หรือคิดเป็นตัวเลขการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 11% โดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสามารถสร้างยอดขายโตสูงขึ้นกว่า 24% เป็นผลจากยอดที่เพิ่มขึ้นของ ALL NEW MG5”

“ประกอบกับทางภาครัฐได้ประกาศนโยบายสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่ง เอ็มจี เป็นแบรนด์แรกที่ตอบรับและพร้อมสนับสนุนมาตรการ ส่งผลให้ราคาจำหน่ายมีการปรับลดลงมากสุดถึงกว่า 246,000 บาท และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมาก ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน เอ็มจี กวาดยอดจองสูงถึงกว่า 4,500 คัน จากรุ่น NEW MG ZS EV คิดเป็นสัดส่วน 40% และ MG EP ด้วยสัดส่วน 60% ยืนหยัดการเป็นผู้นำตัวจริง ของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย”

โดยค่ายเอ็มจี จะเริ่มทยอยส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นให้กับลูกค้า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

ทั้งยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ สำหรับผู้ที่สั่งจองในช่วงนี้จะมีกำหนดรับรถในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ส่วนในไตรมาสที่ 2 ของปี เอ็มจี คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ จะปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น เห็นได้จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15% จากปีที่ผ่านมา

สำหรับ NEW MG ZS EV ผสานความสปอร์ตและเรียบหรู ภายใต้มิติตัวถัง 4,323 x 1,809 x 1,649 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะฐานล้อ 2,585 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยกระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN ตอกย้ำตัวตนของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เพิ่มความโฉบเฉี่ยวและทันสมัยด้วยไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน รวมถึงไฟท้ายทรงตัวแอลคว่ำเช่นเดียวกับไฟฟ้า และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เสริมความสปอร์ตเติมเต็มการใช้งานด้วยสปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว และฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover

                  ภายในตัวรถชูความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้งาน ออกแบบให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูแฝงความสปอร์ตพรีเมียมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch เบาะนั่งหนังสังเคราะห์เดินด้ายแดง โดยเบาะฝั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง ห้องโดยสารตอนหลังมาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่ปรับได้ 2 ระดับ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ มาพร้อมหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัล ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงกระจกมองหลังตัดแสง และหลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ พร้อมด้วยระบบกรองอากาศ PM 2.5, ลำโพง 6 ตำแหน่ง, ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ตโฟนระบบ Android  และระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor รีดพละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า สร้างแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.6 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาด 50.3 kWh ขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่