‘ไทรทัน’ ทรงใหม่ ‘ปิกอัพ’ ครบเครื่อง เติมทางเลือก 13 รุ่น ย้ำเป้าหมายเบอร์ 3

การเปิดตัวของกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน เจเนอเรชันใหม่ ในปี 2566 จนถึงปัจจุบัน สามารถทำยอดขายก้าวขึ้นอันดับ 3 ในตลาดรถปิกอัพเมืองไทย ตอกย้ำความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ หลอมรวมความเป็น “ที่สุด” แห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ล่าสุด มิตซูบิชิ ไทรทัน พร้อมท้าชนตลาดรถปิกอัพไทย กับโฉมรุ่นใหม่ปี 2025 ดุดัน ทรงพลัง ยิ่งขึ้น มาพร้อมทางเลือกที่ครบครันถึง 13 รุ่นย่อน ตอบโจทย์ความเป็นรถกระบะสำหรับคนยุคใหม่ จำหน่ายเริ่มต้นที่ 722,000 บาท
ตลาดรถกระบะนับเป็นเซ็กเมนต์ที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้ความสำคัญ ด้วยภาพรวมของยอดขายรถกระบะที่สามารถกินส่วนแบ่งการตลาดอยู่กว่าครึ่งหนึ่งของตลาดรวมยานยนต์ กระบะ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน จึงนับเป็นโมเดลที่มีบทบาทสำคัญต่อการรุกตลาด
โดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มต้นทำตลาดรถกระบะเป็นครั้งแรกในปี 2521 ซึ่งในช่วงเวลากว่า 45 ปีที่ผ่านมา ได้ผลิต มิตซูบิชิ ไทรทัน ไปแล้วถึง 5 เจเนอเรชัน ด้วยจำนวนการผลิตที่มากกว่า 5.6 ล้านคัน เพื่อทำตลาดใน 150 ประเทศทั่วโลก ทำให้ มิตซูบิชิ ไทรทัน เป็นรถกระบะที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของค่าย “มิตซูบิชิ”
การเปิดตัวของ มิตซูบิชิ ไทรทัน เจเนอเรชันใหม่ จึงถือเป็นโมเดลที่ถูกพัฒนาขึ้นจากการหลอมรวมความเป็น “ที่สุด” แห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อให้ตอบโจทย์ความเป็นรถกระบะสำหรับคนยุคใหม่ โดยทุกฟีเจอร์หลักของ ออล-นิว ไทรทัน ถูกพัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของกระบะรุ่นใหม่ มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะของไทยอีกด้วย
ด้วยโปรดักต์ที่มีความสดใหม่ ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ไฉไลขึ้น ทั้งดีไซน์การออกแบบ สมรรถนะการขับขี่ ช่วงล่าง และเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ ส่งผลให้ ออล-นิว ไทรทัน กลับมาทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ และสามารถคัมแบ็กก้าวขึ้นอันดับ 3 ตลาดรถยนต์ปิกอัพไทยได้สำเร็จ
ล่าสุด “มิตซูบิชิ” พร้อมสานต่อโปรดักต์ไลน์อัปปิกอัพ ด้วยการเปิดตัวแนะนำ มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2025 เติมความสดใหม่ พร้อมรักษาโมเมนตั้ม ภายใต้เอกลักษณ์ที่โดดเด่นมีสไตล์ ครบครันด้วยฟังก์ชัน เปิดตัวทำตลาดทั้งหมด 13 รุ่นย่อย
โดยรุ่นไฮไลต์อย่าง ดับเบิลแค็บ พลัส อัลตร้า (รุ่น 4 ประตู ยกสูง) มาพร้อมความดุดัน และทรงพลัง บันไดข้างสีดำ ตกแต่งสีไทเทเนียมรมดำ ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนภายในห้องโดยสาร มิตซูบิชิเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เบาะที่นั่งหนังสังเคราะห์สะท้อนความร้อน (Heat Guard) ให้ความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control : ACC) ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วตามที่กำหนด ระบบจะใช้เรดาร์ในการคำนวณเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า และสามารถชะลอความเร็วของรถให้เองโดยอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง เข้ามาเพิ่มเติมจากเทคโนโลยีความปลอดภัย ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) เพิ่มระบบฟอกอากาศ Nanoe™X ที่ติดตั้งอยู่กับระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ ซ้าย-ขวา มาช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ให้ความสดชื่น และลดอาการอ่อนเพลียในการเดินทาง
ขุมพลังของ ไทรทัน ใหม่ ยังคงใช้หัวใจเครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ ไฮเปอร์พาวเวอร์ (Hyper Power) ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ผสานช่วงล่างใหม่ และแชสซีเมกะเฟรมใหม่ใหญ่และแข็งแรงขึ้น
ขณะที่รุ่นแอทลีท ขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) มิตซูบิชิได้อัปเกรดความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ด้วยระบบฟอกอากาศ Nanoe™X และดุดันด้วยเครื่องยนต์ “ไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู” เครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบสองสเตจ (Two-Stage Turbo) ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Super Select 4WD II อันขึ้นชื่อ ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการส่งกำลังของเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง
รุ่นดับเบิลแค็บ (4 ประตู) เสริมลุคเข้ม ด้วยไฟหน้าและไฟเดย์ไทม์ LED ใหม่ มามาดเข้ม ด้วยชิ้นส่วนตกแต่งสีดำเงา เช่นเดียวกับรุ่นดับเบิลแค็บ พลัส อัลตร้า หัวใจขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ด้วยกำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร
สำหรับราคาจำหน่ายมิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นปี 2025 จำหน่ายเริ่มต้นที่ 722,000 บาท รุ่นมิตซูบิชิ ดับเบิลแค็บ พลัส (รุ่น 4 ประตู ยกสูง) ราคา 914,000 บาท และมิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) ราคา 1,299,000 บาท ซึ่งการเปิดตัวของ ไทรทัน รุ่นปี 2025 ยังคงเป็นโมเดลแห่งความหวังของ “มิตซูบิชิ” ในการรักษาพื้นที่อันดับ 3 ของตลาดรถกระบะในประเทศไทย และตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น ย้ำความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในระดับโลก