“มอเตอร์โชว์” เอฟเฟกต์ ฟันเฟือง “เศรษฐกิจ” คนดู 1.6 ล้าน ยอดจอง 5.8 หมื่นคัน
งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ยังคงเป็นฟันเฟืองในการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย เติมความคึกคักด้วยทัพยานยนต์ที่หลากหลาย ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน กระตุ้นตลาดด้วยยอดจองทั้งสิ้น 58,611 คัน เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 27.5% ท่ามกลางผู้เข้าชมงานมากกว่า 1.6 ล้านคน ตอกย้ำความสำคัญของออโต้โชว์ระดับโลก
รอยต่อไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปี เป็นช่วงเวลาของ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ออโต้โชว์ระดับโลกที่มีส่วนสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยในปีนี้ กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้จัดงาน ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่จัดงานรองรับการเติบโตของงานแสดงยานยนต์ระดับโลก ที่ได้รับความเชื่อมั่นและการยอมรับจากค่ายผู้ผลิตที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานในปีนี้กว่า 49 แบรนด์
สร้างความคึกคักให้กับตลาดด้วยการขยับตัวของบรรดาค่ายผู้ผลิตที่เสริมทัพสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายด้วยรถรุ่นใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายใต้ความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป รวมถึงข้อเสนอพิเศษที่สร้างโอกาสจับจองเป็นเจ้าของ กระตุ้นการตัดสินใจซื้อจากผู้บริโภคที่เข้าร่วมชมงานในปีนี้จำนวนทั้งสิ้น 1,610,972 คน สะท้อนถึงความสำคัญของงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ทั้งในมุมของผู้ผลิตและผู้บริโภค
ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ บวกกับข้อเสนอที่น่าสนใจ สร้างการเติบโตให้กับยอดขายในปีนี้ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 58,611 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 27.5% โดยเป็นยอดจองรถยนต์ 53,438 คัน จำแนกเป็น รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน 35,921 คัน ครองสัดส่วน 68.7% และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 17,517 คัน คิดเป็น 32.78% ขณะที่รถจักรยานยนต์มียอดจองทั้งสิ้น 5,173 คัน
นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เผยว่า “เนื่องจากการจัดงานในปีนี้ มีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการจากประเทศจีนและเวียดนาม ที่นำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เข้ามาให้ผู้บริโภคเลือกชม เลือกซื้อ เป็นจำนวนมาก มีราคาตั้งแต่หลักแสนปลายๆ ไปจนถึงหลักล้านต้นๆ ส่งผลให้มีผู้บริโภคให้ความสนใจเข้าร่วมงานมากถึง 1,610,972 คน”
“ในส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภคเอง ปีนี้ต่างให้การตอบรับกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวภายในงาน และเปิดจองภายในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรก เห็นได้จากบรรยากาศการเจรจาที่หนาแน่นดังเช่นทุกปีโดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์ที่มียอดจองเป็นสองเท่าของวันธรรมดา แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป เพื่อให้สมกับช่วงที่ต้องรัดเข็มขัด จึงหันมาซื้อหารถใหม่ที่ตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากขึ้น ขณะที่ตลาดรถหรูยังคงเติบโตตามเป้า ด้วยสาเหตุที่ค่ายรถเองต่างชิงเปิดตัวสินค้าใหม่แทบทุกรุ่น เพื่อกระตุ้นยอดขาย”
ภายในงานปีนี้ เป็นทางด้านโตโยต้าที่เก็บเกี่ยวยอดจองได้มากที่สุด จำนวนทั้งสิ้น 8,540 คัน รองลงมาได้แก่ บีวายดี จำนวน 5,345 คัน ตามด้วยค่ายฮอนด้า และเอ็มจี ในอันดับ 3 และ 4 มียอดจองทั้งสิ้น 4,607 คัน และ 3,518 คัน ตามลำดับ ถัดไปเป็นมิตซูบิชิ ในอันดับ 5 จำนวน 3,409 คัน
ขณะที่ฉางอัน ประเดิมงานมอเตอร์โชว์ด้วยอันดับ 6 จำนวนทั้งสิ้น 3,073 คัน ตามด้วยเพื่อนร่วมชาติอย่าง ไอออน ในอันดับ 7 จำนวน 3,018 คัน ส่วนอันดับ 8 ได้แก่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จำนวน 2,815 คัน ด้านอีซูซุเก็บยอดจองไปได้ 2,734 คัน รั้งอยู่ในอันดับ 9 ตามด้วยนิสสัน ในอันดับ 10 จำนวน 2,488 คัน
ส่วนอันดับ 11 ได้แก่ มาสด้า จำนวน 2,292 คัน ถัดไปเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ครองจ่าฝูงพรีเมียมคาร์ในอันดับ 12 จำนวน 1,642 คัน และ เนต้า ในอันดับ 13 จำนวน 1,618 คัน เฉือน ซูซูกิที่ครองอันดับ 14 ด้วยยอดจอง 1,608 คัน รวมถึงฟอร์ด ที่ครองอันดับ 15 ด้วยยอดจอง 1,469 คัน
ถัดไปเป็นค่ายเกีย ในอันดับ 16 จำนวน 1,151 คัน ตามด้วยเพื่อนร่วมชาติอย่าง ฮุนได ในอันดับ 17 จำนวน 1,080 คัน ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู ครองยอดจอง 1,001 คัน รั้งอยู่ในอันดับ 18 ด้าน ซีคเกอร์ แบรนด์น้องใหม่ เก็บไปได้ 398 คัน รั้งอยู่ในอันดับ 19 ส่วนอันดับ 20 ได้แก่ วอลโว่ จำนวน 320 คัน
รวมถึง เสี่ยวเผิง ที่ประเดิมงานมอเตอร์โชว์ ด้วยอันดับ 21 จำนวน 188 คัน ตามด้วย อาวดี้ ในอันดับ 22 จำนวน 182 คัน และ มินิ จำนวน 166 คัน ในอันดับ 23 ส่วนอันดับ 24 ได้แก่ เลกซัส จำนวน 146 คัน รองลงไปได้แก่ เปอโยต์ ในอันดับ 25 จำนวน 88 คัน ตามด้วย ปอร์เช่ จำนวน 65 คัน, โลตัส 32 คัน, จี๊ป 21 คัน, มาเซราติ 15 คัน, โรลส์-รอยซ์ 3 คัน, เบนท์ลีย์ 3 คัน และแบรนด์อื่นๆ 403 คัน
ขณะที่ยอดจองรถจักรยานยนต์ เป็นทางด้านยามาฮ่าที่เก็บเกี่ยวได้มากที่สุด จำนวน 1,171 คัน ตามด้วย สตรอม จำนวน 780 คัน และฮอนด้า จำนวน 678 คัน ในอันดับ 2 และ 3 ถัดไปเป็น ราปิด ในอันดับ 4 จำนวน 614 คัน และ เฟโล ในอันดับ 5 จำนวน 551 คัน ส่วนอันดับ 6 ได้แก่ ซีโฮ่ จำนวน 436 คัน ตามด้วย รอยัล เอนฟิลด์ 252 คัน, ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน 193 คัน, ซูซูกิ 160 คัน, บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 153 คัน, ไทรอัมพ์ 143 คัน และคาวาซากิ 42 คัน
สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เช่นเดิม