โซ่หลุด ฉบับ 1,144 วิถีแห่งการเปลี่ยนแปลง ความจำเป็นของการสื่อสาร “คนสื่อ” ที่ไม่เหมือนเดิม
“โซ่หลุด” คุยกับพรรคพวกคนมอเตอร์ไซค์ หลากหลายเรื่องราวที่คุยกัน รวมถึงสถานการณ์ของแวดวงในปัจจุบัน ที่หลงเหลือความคึกคักอยู่แค่ 2 ค่ายหลัก เป็นฮอนด้ากับยามาฮ่า สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ…วิถีแห่งการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เหลือเพียงการเปิดตัวหรือจัดกิจกรรมอยู่แค่ 2 ค่าย ที่ไร้กลิ่นอายแห่งการอยากรู้อยากเห็น วันวาน…ทุกการเปิดตัวเต็มไปด้วยข่าวสารข้อมูล เพราะเป็นการแข่งขันกันถึง 4 ค่าย นอกจากฮอนด้า-ยามาฮ่าแล้ว ยังมีซูซูกิ มาให้เฝ้าติดตามอีก ทุกการเปิดตัวจะได้รับความสนใจและการวิเคราะห์เจาะลึกจากคนขายต่างยี่ห้อ และคนสื่อ ที่ล้วนมีประสบการณ์ในการเขียนเชิงวิเคราะห์ เพื่อที่จะนำไปเสนอในนิตยสารตัวเอง ที่มีคนอ่านคอยติดตามอีกด้วย
วันนี้…เมื่อค่ายเหลือน้อย แถมคนสื่อก็เปลี่ยนแปลงไป จากสื่อสิ่งพิมพ์มาเป็นสื่อออนไลน์ ที่วิถีการนำเสนอแตกต่างไปอีกด้วย วันวาน…ทุกครั้งของการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ของแต่ละบริษัท จะเต็มไปด้วยความคึกคัก และอยากรู้อยากเห็นจากคนสื่อ วิธีนำเสนอและภาพของตัวรถ มีรายละเอียดแบบครบถ้วน และเป็นเอกลักษณ์ของใครของมัน ทั้งบริษัท ทั้งคนสื่อ มีความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่นิตยสารออกวางตลาด จึงมีความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง เมื่อแต่ละฉบับต้องนำเสนอแบบไม่มีใครยอมใคร จัดกันแบบสไตล์ใครสไตล์มัน ทำให้ทุกนิตยสารมีความน่าสนใจ แตกต่างจากวันนี้ที่เหมือนจะเป็นการแค่เสนอข่าวตามที่บริษัทส่งข้อมูลให้เท่านั้น ไม่มีการวิเคราะห์หรือนำเสนออะไร? ที่เป็นตัวของตัวเอง หยิบข่าวไหนก็จะเหมือนกันไปหมด เป็นข่าวแจกที่บริษัทแจกมาให้นั่นแหละ เลยไร้ความตื่นเต้น
ล่าสุด… “ไทยฮอนด้า” ก้อ…มีการขยับตัวอีกแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คุ้นชินแล้วล่ะ แต่…ก็ต้องยินดีกับการเปลี่ยน “นายญี่ปุ่น” ที่ต้องบอกระยะหลังนั้นแตกต่างเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เหมือนวันวานที่จะได้รับความสนใจมากกว่านี้ ก้อ…น่าจะเป็นด้วยวิถีแห่งโลกของการสื่อสารนั่นแหละ ถ้า “ไทยฮอนด้า” ยังไม่แจกข่าวก็เหมือนยังไม่มีอะไร เป็นวัฏจักรของแวดวงคนมอเตอร์ไซค์ที่เปลี่ยนแปลงไป แต่…ยังไงก็ต้องขอบคุณที่ยังไม่ลืม “โซ่หลุด” ยังคงคิดถึงและกริ๊งกร๊างมาคุยกันเยอะขึ้น โดยเฉพาะ “เอ” นคร วิมลจิตรสอาด ที่ล่าสุด…ต่อสายมาคุยกันหลากหลายเรื่องราว พร้อมทั้งคำยืนยันจะพยายามดูแลคนสื่อที่ยังมีความสัมพันธ์กันอยู่ เป็นคนสื่อตั้งแต่ยุคสื่อสิ่งพิมพ์ ที่วันนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา เพื่อให้วิถีการเป็นคนสื่อยังสามารถดำรงอยู่ต่อไป
เป็นความรักและห่วงใยอย่างจริงใจจาก “โซ่หลุด”