‘ฮุนได’ ปั้นไทยตลาดหลัก เสริมแบรนด์อีวี ‘IONIQ’

ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) ผลักดันประเทศไทยเป็นตลาดหลักในอาเซียน พร้อมเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า “IONIQ” เป็นหนึ่งไฮไลต์ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 ตั้งเป้าปีนี้นำเสนอทั้งบริการและผลิตภัณฑ์ พร้อมเร่งเดินหน้าปรับปรุงและขยายเครือข่ายดีลเลอร์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทมองเห็นศักยภาพของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยในการเป็นตลาดหลักของภูมิภาคเอเชีย โดยภายในงานครั้งนี้จึงได้เปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของฮุนไดอย่าง “IONIQ” ด้วยรุ่น IONIQ 5 และอีกหนึ่งไฮไลต์อย่าง Hyundai Santa Fe เอสยูวีครอบครัว 7 ที่นั่ง ภายในงานครั้งนี้ พร้อมรถยนต์ยอดนิยมครบทุก Line-up และ Segment
นำทัพโดย IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าอีวี 100% ชูคอนเซปต์การผสมผสานดีไซน์ยานยนต์คลาสสิกอย่าง Hyundai Pony เข้ากับ Parametric Pixels Design ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเส้นสายที่สะอาดตาและเฉียบคม เน้นเส้นเหลี่ยมสันสร้างรูปลักษณ์ที่เพรียวบาง นับเป็นการผสานความล้ำสมัยเข้ากับความคลาสสิกอย่างลงตัว ด้านหน้ารถออกแบบเป็นรูปตัว V กระจังหน้าทรงปิดทึบ ฝากระโปรงหน้าแบบ Clamshell Bonnet มือเปิดประตูด้านข้างแบบซ่อนเก็บได้ในตัว ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือการออกแบบของ จิออเกตโต จูเจียโร่ (Giorgetto Giugiaro) นักออกแบบชื่อดังชาวอิตาลี ซึ่งกลับมาร่วมมือกับฮุนไดอีกครั้ง เพื่อปลุกตำนานอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในวันนี้
Hyundai Santa Fe เอสยูวีพร้อมเบาะแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ใน Segment D-SUV เปิดตัวในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Hybrid ที่ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดแบบ Combined System 350 นิวตันเมตร ที่ 1,000 – 4,500 รอบต่อนาที พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Active On-demand โดยใช้ล้อ Aero type alloy ขนาด 19 นิ้ว ส่วนกระจังหน้าเป็นโครเมียมแบบ Cascade ที่สอดรับกับมือจับประตููที่ตกแต่งด้วยโครเมียมเช่นกัน หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Dual LED Projector T-design และไฟ LED ส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights ด้านหลังสง่างามด้วยการตกแต่งสปอยเลอร์หลังพร้อมเสริมไฟท้าย LED ด้วยไฟเบรก LED ดวงที่ 3 เพิ่มความสว่างและการมองเห็นที่ชัดเจน
Hyundai Elantra N มาพร้อมเครื่องยนต์ Theta-II 2.0 T-GDi เทอร์โบ กำลังสูงสุด 280 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 392 นิวตันเมตร ที่ 2,100 – 4,700 รอบต่อนาที ใช้ระบบส่งกำลังแบบ N 8-speed Wet Dual Clutch Transmission (DCT) ทั้งยังมีระบบผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้เอง ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า มาพร้อมเทคโนโลยีระบบวาล์วท่อไอเสียแบบแปรผันที่สร้างเสียง Pop-corn Sound และระบบกันสะเทือนแบบ Adaptive ใช้ระบบบังคับเลี้ยวแบบ Rack-mounted Motor Driven Power Steering (R-MDPS) และเบรกอย่างแม่นยำ ด้วยระบบดิสก์เบรกประสิทธิภาพสูงพร้อมช่องระบายความร้อนขนาด 360 x 30 มม. (ล้อหน้า) และขนาด 314 x 20 มม. (ล้อหลัง)
โหมดการขับขี่อัจฉริยะทั้ง N, N Custom 1 และ N Custom 2 พร้อมระบบเฟืองท้าย e-LSD (electronic-Limited Slip Differential) ที่ทำงานร่วมกับะบบช่วงล่างไฟฟ้า ECS (Electronically Controlled Suspension) และระบบปรับเสียงท่อไอเสียแบบ Active Variable Exhaust ที่ให้เสียงเร้าใจเสมือนโลดแล่นในสนามแข่ง
นายเจ ฮยุน กวาง หัวหน้าทีมกลยุทธ์ของแบรนด์ N จากสำนักงานใหญ่ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ กล่าวว่า ฮุนได ยังมีศักยภาพในด้านยานยนต์สมรรถนะสูงซึ่งเปิดตัวสู่ตลาดโลกแล้วภายใต้แบรนด์ ‘N Performance’ ยานยนต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต ผสานความสะดวกสบายเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ครอบคลุม โดยนำ Elantra N มาเปิดตัวในงานนี้เป็นครั้งแรกของเมืองไทยและตลาดต่างประเทศ
ด้านนายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปีนี้ ฮุนไดเปิดเกมรุกตลาดยานยนต์อย่างเต็มรูปแบบ หลังบริษัทแม่ของฮุนได เข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยด้วยตัวเอง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาโดยได้ยกระดับการนำเสนอทั้งบริการและผลิตภัณฑ์ เพื่อมอบประสบการณ์แก่ผู้ขับขี่ ด้วยนวัตกรรมและโซลูชันแบบบูรณาการใหม่ๆ รวมถึงการขยายเครือข่ายดีลเลอร์ให้ครอบคลุมขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปีนี้เพิ่มดีลเลอร์รายใหญ่อีกเกือบ 10 ราย เพื่อให้ฮุนไดสามารถมอบบริการแก่ลูกค้าชาวไทยอย่างทั่วถึงในระยะยาว