ส่องกล้อง By The Great MG4 ELECTRIC X ขับสนุกเร้าใจ สไตล์รถขับหลัง

ในยุคที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นหนึ่งผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งค่ายเอ็มจี ในฐานะผู้นำตลาดได้เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งในไลน์อัป เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัว MG ZS EV ในตลาดประเทศไทย ตามด้วย MG EP และ NEW MG ZS EV ไล่เลียงมาจนถึงรุ่นล่าสุดอย่าง NEW MG4 ELECTRIC บีอีวี สไตล์แฮตช์แบ็กรุ่นแรกของค่าย

โดย NEW MG4 ELECTRIC ได้เปิดตัวและจำหน่ายในตลาดโลกก่อนที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีที่ผ่านมา มาพร้อม 2 รุ่นทางเลือก เคาะราคาจำหน่าย 869,000 บาท ในรุ่น D และ 969,000 บาท ในรุ่นท็อปอย่าง X ซึ่งกลยุทธ์ด้านราคาจำหน่ายยังคงเป็นหนึ่งในจุดแข็งของค่ายเอ็มจี ในตลาดประเทศไทย และเป็นหนึ่งในแรงกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

สำหรับ NEW MG4 ELECTRIC มาภายใต้รูปโฉมที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้โครงสร้าง เนบิวลา ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับรถบีอีวีโดยเฉพาะ และ NEW MG4 ELECTRIC คือรถรุ่นแรกที่เป็นผลผลิตจากโครงสร้างดังกล่าว ที่โดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นในการนำไปใช้ได้หลากหลาย รองรับการออกแบบในสไตล์ที่แตกต่างกันไป

ซึ่งระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นหนึ่งในจุดขายของรถรุ่นดังกล่าว สร้างความแตกต่างด้านการคอนโทรลที่แตกต่างจากรถขับหน้า ที่ต้องแบกภาระทั้งด้านพละกำลังและการควบคุม ส่งผลให้ NEW MG4 ELECTRIC มาพร้อมฟีลลิ่งการขับขี่ที่สนุก แยกการทำงานระหว่างล้อหน้า-หลังอย่างชัดเจน ทรงพลังด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า รีดพละกำลัง 170 แรงม้า สร้างแรงบิด 250 นิวตัวเมตร เติมความสนุกให้กับการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

ทั้งยังครบครันทันสมัยด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยมาตรฐานระดับสากลตามยุคสมัย เสริมความมั่นใจให้กับการใช้งานด้วยระยะทางที่วิ่งได้กว่า 435 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้งตามที่ค่ายเคลมมา ซึ่งการใช้งานจริงจะดร็อปลงมาจากตัวเลขดังกล่าวอย่างแน่นอน แต่ก็อยู่ในเรนจ์ที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานในรูปแบบซิตี้คาร์ หรือออกทริปเดินทางก็น่าจะมีความคล่องตัวไม่น้อย ทว่าต้องวางแผนการเดินทางให้ดีกับเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ในปัจจุบัน

ใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จาก 0-100% ราว 8 ชั่วโมงครึ่ง และชาร์จไฟจาก 10-80% ผ่านระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) หรือควิกชาร์จ ภายในเวลา 35 นาที เอาจริงๆ ถ้าเน้นใช้ในเมืองเป็นหลัก ขับรถกลับบ้านมาถึงก็ชาร์จแบบโอเวอร์ไนท์ เช้ามาก็พร้อมใช้งานกับระยะทางที่วิ่งได้มากกว่า 300 กิโลเมตร เพียงพอและตอบโจทย์อย่างแน่นอน ทั้งยังสามารถปรับบทบาทเป็นแหล่งพลังงานให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านระบบ V2L ที่ใส่มาตั้งแต่รุ่นก่อนหน้าอย่าง NEW MG ZS EV

โดยภาพรวม MG4 ELECTRIC มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของรูปโฉม รวมถึงสมรรถนะการใช้งานที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ในบทบาทของบีอีวีที่ขับขี่สนุกและทรงประสิทธิภาพ ตอกย้ำแนวคิด FUN TO DRIVE ซึ่งเป็นทิศทางการสื่อสารที่แสดงตัวตนที่ชัดเจนของรถรุ่นดังกล่าว ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่และเพิ่มความน่าสนใจให้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% กับทางเลือกที่หลากหลายในตลาดยุคปัจจุบัน

แม้บีอีวีจะยังไม่ใช่ผู้เล่นหลัก แต่ด้วยความเข้มข้นของการแข่งขันจากค่ายแดนมังกร ที่เข้ามาสร้างกระแสฟีเวอร์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สร้างแรงกระเพื่อมและกระตุ้นการทำตลาดให้กับผู้ผลิตหลากหลายค่าย ท้ายที่สุดผลประโยชน์จะตกอยู่กับผู้บริโภค หากรู้จักเลือกและลองด้วยตนเอง ซึ่งเป็นคำตอบที่ดีที่สุดหากคิดจะซื้อรถสักคัน เพราะความอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชอบแบบไหนก็กินแบบนั้น ทว่าโดยส่วนตัวถ้าจะซื้อรถไฟฟ้าสักคัน MG4 ELECTRIC เป็นหนึ่งในลิสต์อันดับต้นๆ ในตลาดยุคปัจจุบันอย่างแน่นอน