จากรถอีวีต้นแบบ ขยับไปสู่การพัฒนาเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าเปิดประทุน 2 ที่นั่ง เวอร์ชันขายจริง “เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์” พร้อมแล้วที่จะให้ผู้บริโภคชาวไทยจับจองสิทธิเป็นเจ้าของผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงสิ้นปี 2566 จอง 10,000 บาท สามารถแลกรับส่วนลดได้ 50,000 บาท คาดปีหน้าเดินหน้าผลิตและเปิดราคาขาย

                  จากความสนใจของผู้บริโภคในประเทศไทย ที่จับจองสิทธิเป็นเจ้าของ “เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์” สปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าเปิดประทุน 2 ที่นั่ง จำนวนกว่า 700 คัน ในล็อตแรกที่มาพร้อมข้อเสนอ วางเงินจอง 10,000 บาท สามารถแลกรับส่วนลดได้มากถึง 100,000 บาท

                  ล่าสุด เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานไทยแลนด์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป โดยจัดทัพกลุ่มพรีเมียมอีวีมาจัดแสดงครั้งแรกในไทยและอาเซียน นำโดย “เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์” สปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง และ IM LS6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ

สำหรับ “เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์” โรดสเตอร์ อีวี จากรถต้นแบบเมื่อ ปี 2021 สู่รถผลิตจริงในปี 2023 ซึ่งครั้งนี้ทางค่ายได้นำมาให้ยลโฉมเป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยรถคันที่นำมาแสดงได้เปิดตัวที่สหราชอาณาจักร ในงาน Goodwood Festival of Speed 2023 และงานเฉิงตู มอเตอร์โชว์ ณ ประเทศจีน เมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

จุดเด่นของ เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์ เป็นรถโรดสเตอร์ไฟฟ้า อิเล็กทริก โรดสเตอร์ เปิดประทุน 2 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยดีไซน์ประตูปีกนกแบบปุ่มสัมผัสเปิด-ปิด และหลังคาผ้าซอฟต์ท็อป มาพร้อมกระจังหน้าเรียวยาว เส้นด้านข้างของตัวรถมีความโค้งมนให้ความรู้สึกพลิ้วไหวแต่แฝงไว้ซึ่งความแข็งแกร่ง

ภายในหรูหราด้วยวัสดุระดับพรีเมียมใช้ดีไซน์แบบโอบล้อม พร้อมพวงมาลัยทรงสปอร์ต เบาะนั่งแบบสปอร์ตรูปตัว Y เพื่อให้ได้บรรยากาศแบบรถสปอร์ต ผ้าหนังกลับสัมผัสละเอียดรวมถึงเทคโนโลยีการเย็บที่ประณีต เผยให้เห็นสไตล์ที่หรูหราในทุกตารางนิ้ว

สปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นนี้ยังสามารถมอบฟีลลิ่งการขับขี่ในแบบฉบับรถสปอร์ตสไตล์ Convertible โดยรุ่นที่ปรากฏตัวภายในงานเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย มอเตอร์คู่ 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 725 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.2 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 77 กิโลวัตต์ชั่วโมง รวมถึงระบบช่วงล่างด้านหน้าอิสระปีกนกคู่และหลังอิสระมัลติลิงค์

เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์ จะมาพร้อมทางเลือกด้านพละกำลัง 2 รุ่น ประกอบไปด้วยรุ่นมอเตอร์เดี่ยวที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 309 แรงม้า ขณะที่รุ่นท็อป จะมาพร้อมมอเตอร์คู่ที่ส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อทั้งสี่ ช่วยรีดกำลังออกได้สูงสุด 536 แรงม้า

ทั้งนี้ เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์ ยังได้รับการพิสูจน์สมรรถนะ และความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน กับภารกิจ “Charging Iinto The Future” ข้าม 3 ทวีป 23 ประเทศ บนเส้นทางจริงกว่า 10,000 ไมล์ (กว่า 16,000 กิโลเมตร) จากทวีปยุโรป อาทิ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เบลเยียม เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี

ก่อนจะข้ามมาอีกซีกโลกสู่ตะวันออกกลาง อาทิ จอร์แดน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก่อนมุ่งหน้าสู่ทวีปเอเชีย ผ่าน อินเดีย  มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และมุ่งหน้าเข้าสู่จุดมุ่งหมายที่มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน

เพื่อให้ประจักษ์ถึงความทรงพลังของตัวรถของ เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์ ที่เหนือระดับด้วยการเป็นสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้า 100% แบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง มาพร้อมประตูปีกนกอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ยกย่องให้เป็นสถาปัตยกรรมโครงสร้างไอเดียแห่งอนาคตอันแท้จริง

รถคันนี้คือโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าที่มีราคาจับต้องได้รุ่นแรกของโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ พวกเขาได้เปิดจองรถคันดังกล่าวไปในหลายตลาด รวมถึงประเทศไทย ที่เปิดให้แสดงความสนใจจับจองเป็นเจ้าของไปแล้วก่อนหน้า

ล่าสุด ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40  เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ยังพร้อมให้ลูกค้าสามารถจับจองสิทธิเป็นเจ้าของ “เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์” อีกครั้ง ภายใต้แคมเปญ MG CYBERSTER Prestige Reservation โดยสามารถทำการจองผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ที่ bit.ly/MGPrestigeReservation ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2566 ด้วยเงื่อนไขจอง 10,000 บาท แลกรับส่วนลด 50,000 บาท โดยคาดว่าพร้อมที่จะเดินหน้าผลิตและเปิดราคาขายในปีหน้า

เอ็มจี ยังคงยืนหยัดเจตนารมณ์ความเป็นหนึ่งด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ เอ็มจี ไซเบอร์สเตอร์ ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ในกลุ่มรถสปอร์ตที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบ 100% ผสมผสานดีไซน์ของรถคลาสสิกให้เข้ากับ DNA สายพันธุ์สปอร์ตภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้างไอเดียแห่งอนาคตอันแท้จริง