“เอ็มจี” อัดแผนกลยุทธ์ สู่เป้าหมาย “สังคมอีวี”
เอ็มจีฉลองครบรอบ 4 ปี พร้อมสร้างจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ให้วงการยานยนต์ไทย ด้วยการบุกตลาดปลุกกระแสนิยม “รถยนต์ไฟฟ้า” พร้อมเดินหน้าเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ และขยายเครือข่ายสถานีชาร์จอีวี MG SUPER CHARGE ให้มากขึ้น กว่า 140 แห่งทั่วประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 เอ็มจีปลุกกระแส EV ด้วยการเปิดตัวเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% ในรุ่น MG ZS EV ซึ่งในครั้งนั้นถือเป็นการสร้างจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ให้กับยานยนต์ไทย เป็นการจุดประกายความนิยมรถ EV ให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว
จากจุดเริ่มต้นในวันนั้นจวบจนวันนี้ เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี ปัจจุบันเอ็มจีมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสะสมแล้ว กว่า 1 หมื่นคัน และมี EVที่ขายในไทย 5 รุ่นได้แก่ NEW MG ZS EV, NEW MG EP, NEW MG4 ELECTRIC, NEW MG ES และ NEW MG MAXUS 9
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอ็มจีต้องการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เทียบเท่ากับยานยนต์โลก ดังนั้น จึงตัดสินใจเปิด MG ZS EV ในปี 2562 ซึ่งในครั้งนั้นมีเป้าหมายให้คนไทยเปิดใจกับรถ EV ว่าเป็นรถที่สามารถเข้าถึงและใช้งานได้ง่าย ไม่ได้เป็นรถที่ราคาสูง จับต้องไม่ได้
“เราอยากให้ลูกค้า “คิดถึงอีวี คิดถึงเอ็มจี Think of EV Think of MG” ซึ่งแผนงานของเราต่อจากนี้ ยังคงเดินหน้ารุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้า โดยภายในสิ้นปีนี้จะได้เห็นอีกหนึ่งรุ่น MG Cyberster”
นอกจากเปิดตัวรุ่นใหม่แล้ว เอ็มจียังจัดทำแคมเปญเพื่อต้อนรับลูกค้าใหม่ อาทิ ซื้อ EV เอ็มจี ทุกรุ่น รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน, ฟรี MG HOME CHARGER 1 ชุด, ฟรีค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER,ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ.คุ้มครอง 1 ปี และรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 1.8 แสน กม. ยกเว้นในรุ่น NEW MG MAXUS 9 รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 2 แสนกิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ขณะเดียวกัน กลยุทธ์ทางการตลาดที่เอ็มจีได้เน้นหนักในปีนี้ คือการทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้า โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้จัดงาน อาทิ กิจกรรม EV FAMILY DAY, กินเที่ยวชาร์จ Carbon Free Road Trip และล่าสุด MG Carbon Free Road Trip ซึ่งทุกกิจกรรมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชากรเอ็มจี
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า เอ็มจียังเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า MG SUPER CHARGE ที่พร้อมให้บริการมากกว่า 140 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ก็สร้าง EV ECOSYSTEM ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างสังคมยานยนต์ไฟฟ้าให้มีคุณภาพและยั่งยืน
“เราถือเป็นผู้บุกเบิกสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย เพราะนอกจากจะนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาจับต้องได้มาให้กับลูกค้าแล้ว เรายังริเริ่มขยาย MG SUPER CHARGE สำหรับลูกค้า และเรายังมีความพร้อมด้านศูนย์บริการและบุคลากรที่จะซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างทั่วถึง และสิ่งสำคัญที่สุดในเดือนตุลาคมนี้ เราจะมีการเปิดโรงงานประกอบชิ้นส่วนแบตเตอรี่ ที่โรงงาน เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด”