“วอลโว่” ปรับกลยุทธ์ รักษาบาลานซ์โปรดักต์

วอลโว่ ปรับแผนงานขยายเวลาขายรถอีวีทั้งพอร์ต ออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี ลั่นพยายามปรับความสมดุลตลาด หลังพบความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเลือกใช้งานรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ยังคงมีแนวโน้มที่สูง แย้มปรับแผนการตลาดครั้งนี้เพื่อมุ่งเน้นเพิ่มประสบการณ์ที่มีต่อสินค้า-บริการ ให้มีความสอดคล้องตามความต้องการ
มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของ วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ได้เตรียมปรับแผนธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยเฉพาะแผนการขับเคลื่อนการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า 100% (อีวี) ออกสู่ตลาด เพียงอย่างเดียวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2568-2569 (2025-2026) เป็นต้นไปนั้น นับเป็นแผนงานที่เร็วกว่าบริษัทแม่กำหนดไว้ ภายในปี พ.ศ. 2573 (2030) โดยจะยุติการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาป (ICE) และเครื่องยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (พีเอชอีวี)
“แต่ถึงอย่างไรก็ดี ณ ปัจจุบัน เราพบว่าความต้องการ และการตอบรับรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในประเทศไทยยังไม่เป็นไปตามคาดการณ์ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีความต้องใช้รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริดอยู่เป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก ส่วนเทรนด์การตอบรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดโดยปัจจุบัน มีสัดส่วนความต้องการของรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อยู่ที่ 20% โดยความต้องการของรถอีวีโตกว่า 24% ทำให้สัดส่วนเพิ่มเป็น 80% ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลื่อนแผนงานของเราออกไป”
ทั้งนี้ สถานการณ์ภาพรวมตลาดรถยนต์รวมและตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2568 ยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลดีต่อตลาดที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2567 โดย วอลโว่ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2568 เติบโต 5% เมื่อเทียบกับปี 2567 มียอดจองให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 3% จากตลาดรถพรีเมียมมีความต้องการ 35,000-36,000 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 3 รุ่น ทั้ง อีเอส90 พีเอชอีวี ไมเนอร์เชนจ์ ที่เพิ่งเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) อีก 2 รุ่น อีเอ็กซ์30 ครอสคันทรี และอีเอส90
ทั้งนี้ วอลโว่ได้นำเข้ารถพลังงานไฟฟ้า (EV) ที่วอลโว่ทำตลาดนั้น เป็นการนำเข้าจากสายการผลิตในจีน ที่ได้สิทธิพิเศษภาษีนำเข้า 0% จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ส่วนรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด นำเข้าจากสายการผลิตโรงงานมาเลเซีย เข้ามาทำตลาด
“เรายังเชื่อว่าอนาคตรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมดจะต้องปรับพอร์ตเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้อย่างแน่นอนในอนาคต ทว่าตอนนี้ เราจำเป็นต้องการที่จะรักษาความสมดุลเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในตลาด รวมทั้งต้องการบาลานซ์โปรดักต์ของเราด้วย และแน่นอนว่าเมื่อผู้บริโภคยังมีความต้องการรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ยังมีอยู่ เราเองก็ต้องพยายามตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าตรงนี้ด้วย”
ทั้งนี้ วอลโว่ได้ประเมินว่า ผู้บริโภคชาวไทยอาจจะให้การตอบรับรถยนต์ไฟฟ้า 100% จริงจัง โดยใช้ระยะเวลาอีก 1-2 ปีจากนี้ หรือราวๆ ปี พ.ศ. 2570-2571 (2027-2028) นั่นเอง ส่วนแผนการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายนั้น ล่าสุดเพิ่งมีการเปิดให้บริการโชว์รูมและศูนย์บริการ สาขาพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจำนวนโชว์รูมที่มีอยู่ 14 แห่งนั้นยังเพียงพอต่อการดูแลลูกค้าชาวไทย