‘โตโยต้า’ ผนึกพันธมิตร ตอกย้ำแผน ‘ลดคาร์บอน’
โตโยต้าจูงมือ ซีพี, ทรู ลีสซิ่ง, SCG และ CJPT ร่วมลงนาม MOU เร่งเดินหน้าแผนความร่วมมือกับหลากหลายอุตสาหกรรม ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจโซลูชัน 3 ด้าน “ข้อมูล-การเดินทาง-พลังงาน” เพื่อมุ่งสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (โตโยต้า), เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP, ทรู ลีสซิ่ง, ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCG และ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation หรือ CJPT ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเร่งความร่วมมือในการมุ่งสู่การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทย
โดยเป้าหมายของการเซ็น MOU ดังกล่าว เกิดขึ้นจากความสำเร็จในปัจจุบัน ซึ่งเป็นผลจากความพยายามร่วมกันของทุกฝ่าย การใช้ยานยนต์จากพลังงานที่หลากหลายตามความต้องการในประเทศไทย รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในภาคการขนส่งของซีพีและเอสซีจี
สำหรับความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ที่ดี และความเชื่อมั่นระหว่าง นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และ มร.อากิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัทโตโยต้า (ในขณะนั้น) ซีพี, ทรู ลีสซิ่ง, เอสซีจี, โตโยต้า และ CJPT
โดยได้เริ่มต้นดำเนินการใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านข้อมูล ด้านการเดินทาง และด้านพลังงาน โดยพิจารณาว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยนำมาซึ่งความสุขให้แก่ชาวไทย 67 ล้านคน ภายใต้แนวคิด เริ่มจากสิ่งที่สามารถทำได้ ณ เวลานี้ ร่วมกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน
สำหรับโซลูชันด้านการใช้ข้อมูล ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า คือประสิทธิภาพของการโหลด และปรับเส้นทางในการจัดส่งอย่างเหมาะสม ด้วยการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้านการค้าปลีก และการขนส่งของแม็คโคร ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มซีพี รวมถึงเอสซีจี ตลอดจนการนำข้อมูลด้านการขนส่งและยานยนต์มาใช้ เพื่อนำมาทดลองกับร้านค้าที่เราดำเนินการทดสอบ ส่งผลให้ขณะนี้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 15%
ส่วนโซลูชันด้านการเดินทาง หลังจากที่โตโยต้ามีการเปิดตัวยานพาหนะที่มีความหลากหลาย รวมทั้งรถบรรทุกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง หรือ FCEVs รถกระบะไฟฟ้าต้นแบบ Hilux Revo BEV Concept รถ Japan Taxi LPG-HEV และรถตู้ขนาดเล็กเพื่อการพาณิชย์ (Kei) โดยการใช้งานจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับการขนส่งในแต่ละประเภท และในแต่ละวัน
สำหรับโครงการความร่วมมือครั้งนี้ มีการใช้รถพลังงานไฮโดรเจน และรถตู้ขนาดเล็ก ในธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มซีพี และเอสซีจี ซึ่งส่งผลให้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 68 ตันต่อปี นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการริเริ่มการใช้โดรนไฮโดรเจนต้นแบบสำหรับหว่านเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และงานอื่นๆ ในพื้นที่เกษตรของซีพี
ในส่วนของโซลูชันด้านพลังงาน เพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่มีการเปิดตัวเครื่องผลิตไฮโดรเจนจากก๊าซชีวภาพที่ได้จากฟาร์มไก่ไข่ของซีพีเอฟ และอาหารเหลือทิ้งจากโรงอาหารของโตโยต้า โดยนำพลังงานนั้นมาใช้กับรถบรรทุกพลังงานไฮโดรเจน และโดรนไฮโดรเจน รวมไปถึงการแข่งรถที่จะมีขึ้นในปลายเดือนธันวาคม นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเริ่มโครงการสาธิตการจัดการพลังงาน โดยใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) และระบบการจัดเก็บพลังงานในแบตเตอรี่
ก้าวต่อไป โตโยต้ามีแผนที่จะนำรถยนต์ HEV หรือรถตู้ขนาดเล็กเพื่อการพาณิชย์ หรือ Kei ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสังคมไทยในปัจจุบัน พร้อมทั้งในอนาคตจะมีการนำรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEVs) และรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบไฟฟ้า (BEV) มาเพิ่มเติม เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายใต้แนวคิดการเดินทางที่หลากหลายจากโตโยต้า