รามอินทรา จอ…จ่อ…จ้อ…601 วังวน…ที่น่าเป็นห่วง คนยานยนต์…ไม่มีงบ คนสื่อ…ยังคงเยอะแยะ

“รามอินทรา” คุยกับพรรคพวกคนสื่อด้วยกัน ก้อ…ยอมรับว่าวันนี้…เป็นความยากลำบากของคนสื่อจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเพราะจำนวนคนสื่อที่เยอะจนเกินกับความยากลำบากของคนบริษัท ไม่ว่าจะเป็นค่ายรถไฟฟ้า หรือค่ายรถน้ำมัน ต่างก็อยู่ในวังวนที่ต้องเข้มงวดกับการใช้งบ ยิ่งคนสื่อที่ทำมาหากินกับรายการโทรทัศน์ ยิ่งยากลำบากขึ้นไปอีก และที่น่าสนใจ…กลับเป็นว่า…รถไฟฟ้าที่ท่าทางคึกคักนั้น กลับไม่มีงบ หรือมีก็น้อยถึงน้อยมาก ส่วนมากก็แค่เชิญทำใจซะมากกว่า หรือถ้าจะให้งบก็เลือกที่อยู่หัวแถว ซึ่งก็ไม่ได้มีมากรายการ “รามอินทรา” ได้ยินแล้วอดถามไม่ได้ว่า…แล้วยังงี้คิดว่า “คนสื่อ” จะอยู่กันอย่างไร? โดยเฉพาะ…สื่อที่เพิ่งเกิด เมื่อมีเยอะแยะเหลือเกิน ก็อย่างที่เคยเขียนให้อ่านกัน แค่มือถือเครื่องเดียวก็เป็นเจ้าของสื่อได้เลย ซึ่งพรรคพวกก็บอกว่า…หลังจากนี้คงอยู่ได้ยากขึ้นแล้วล่ะ เพราะคำตอบวันนี้…คือไม่มีงบ
วันนี้…หากทอดสายตามองไปในแวดวงยานยนต์ จะรู้สึกถึงความเงียบเหงาได้ชัดเจน ยิ่งห้วงเวลาที่ผ่านมา “รามอินทรา” ยอมรับด้วยเหมือนกันว่า การจะดำรงอยู่เป็นเรื่องยากถึงยากมาก ก้อ…ขนาด “รามอินทรา” เขียนหนังสือยังยากขึ้นกว่าวันวาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข่าว หรือเรื่องของตัวละคร แทบหาไม่เจอเลย เชื่อมั้ย…จะโทรศัพท์หาใครสักคนเป็นเรื่องยากมาก ที่จะได้ยินเสียงตอบรับ ถ้าไม่ติดประชุมก็คงจะติดภารกิจวุ่นวายไปหมด เมื่อที่ผ่านมา…ล่วงเวลาเกือบจะครึ่งปีแล้ว ยังคลำหาตัวเลขยอดจองไม่เจอะเจอ แต่… “รามอินทรา” ยังเชื่อในสไตล์ของคนไทย ถ้ามีตังค์มักไม่ค่อยชอบซื้อ ยังไงก็ซื้อได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นห้วงเวลาแห่งความยากลำบาก จะรู้สึกอยากซื้อขึ้นมาซะยังงั้น แล้วทำยังไงล่ะ ก็ต้องทำทุกวิถีทาง จะกู้จะยื่นจะเป็นหนี้ไม่มีปัญหา ถ้าได้ขับรถป้ายแดงสักคัน ยังไงก็ยอม
ด้วยประการฉะนี้… “รามอินทรา” จึงเชื่อว่ายังมีโอกาสในวิกฤติยังมีช่องทางที่จะค้นหาความสำเร็จได้ แม้ว่าจะยากลำบากกว่าปกติ แต่ที่น่าเป็นห่วงมาก กลายเป็น “คนสื่อ” นี่แหละ จะดำรงอยู่กันได้อย่างไร? ถ้าข่าวของค่ายรถยนต์นั้นไม่มีงบจริงๆ สิ่งที่น่าสนใจนอกจากการค้นหายอดจองแล้ว ยังคงคิดถึงคนสื่อ ถ้างบหายากยังงี้จะทำกันอย่างไร? จะหารายได้มาจากไหน จะใช้กลยุทธ์ใด ทำให้ค่ายยานยนต์ดิ้นรนหางบมาดูแลคนสื่อมากขึ้น ในขณะที่คนสื่อนั้นจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยหรือไม่? ถ้าขืนยังทำตัวเป็นก็อปปี้เพรส จะสามารถดึงดูดความสนใจจากค่ายยานยนต์ได้หรือไม่? ถ้าไม่ได้หรือไม่สามารถทำให้ค่ายรถยนต์อยากสนับสนุน ก้อ…น่าจะได้เวลานับถอยหลังของ “คนสื่อ” บ้างแล้วล่ะ ก้อ…ไม่รู้ว่าสิ่งที่ “รามอินทรา” ห่วงใยจะเป็นความรู้สึกของ “คนสื่อ” ด้วยหรือไม่?
คงเป็นวังวนของการเปลี่ยนแปลงที่ต้องยอมรับ “รามอินทรา” ก็คงทำหน้าที่ จอ…จ่อ…จ้อ ต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังได้รับการดูแลและสนับสนุนจากค่ายยานยนต์ ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้สามารถอยู่คู่กับคนยานยนต์ได้อย่างยาวนานตลอดไป
ขอบคุณที่จะดูแลกันนะครับ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
21 พฤษภาคม 2567