“มาสด้า” ปรับหลังบ้าน ผนึกดีลเลอร์เสริมแกร่ง

มาสด้า เดินหน้าเร่งปรับปรุงงาน “การบริการหลังการขาย” ผนึกกำลังผู้จัดจำหน่ายเสริมความแข็งแกร่ง หวังรักษาฐานลูกค้าเก่า และร่วมสร้างภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นที่ให้กับลูกค้าใหม่ คาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตกำลังเร่งฟื้นตัว ส่วนปีนี้ลั่นรักษามาร์เก็ตแชร์เท่าปีก่อน
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ประธานกรรมการบริหาร & ซีอีโอ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้มาสด้า ประเทศไทย จะมีการส่งรถยนต์ไฟฟ้า 100% ทำตลาดในช่วงปลายปี โดยเป็นการนำเข้ามาทำตลาดจากจีน ภายใต้ความร่วมมือของมาสด้าและพาร์ตเนอร์คือ Mazda6e ซึ่งอยู่ภายใต้แผนธุรกิจหลังจากมาสด้าได้ลงทุนในประเทศไทยเป็นมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท สำหรับการให้เป็นฐานผลิตรถยนต์ xEVs และเตรียมเปิดตัวรถยนต์ xEVs 5 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปีจากนี้ ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 2 รุ่น, รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) 2 รุ่น และรถยนต์ไฮบริด HEV 1 รุ่น โดยจะมีรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายทั้งจากจีนและญี่ปุ่น รวมทั้งรุ่นที่ผลิตจากโรงงานประเทศไทย
สำหรับมาสด้า ประเทศไทยนั้น ปีนี้จะยังเดินหน้าทำตลาดรถยนต์รุ่นที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้ง 8 รุ่น ให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่ามีกลุ่มลูกค้าเก่าที่เป็นเเฟนมาสด้าอยู่เป็นจำนวนมาก และพยายามเดินหน้าสร้างฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม
“จากการเก็บข้อมูลพบว่า กลุ่มลูกค้าที่รักและชื่นชอบมาสด้ามีการกลับมาซื้อซ้ำค่อนข้างเยอะ และปีนี้จะเป็นปีที่มาสด้ากลับมาสร้างรากฐานวางนโยบายการดูแลลูกค้าให้มีความแข็งแรง ควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายการจำหน่ายกับดีลเลอร์ที่มีความภักดีต่อแบรนด์ เพื่อร่วมกันสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในอนาคต”
รวมถึงการใช้กลยุทธ์ JOY DRIVES LIVES มาใช้กับการทำตลาด เน้นการนำลูกค้ามาเป็นศูนย์กลางของการทำงานของมาสด้า ตามแนวทาง Management Policy ประกอบด้วย ผู้จำหน่าย พนักงาน และที่สำคัญสูงสุดคือลูกค้า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer-Centric)
ขณะที่เป้าหมายด้านการจำหน่ายนั้น นายธีร์ กล่าวว่า มาสด้าจะมุ่งเน้นการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด หรือมาร์เก็ตแชร์ที่ 2% เอาไว้ให้ได้ จากการประเมินว่ายอดขายรถยนต์โดยรวมปีนี้จะอยู่ที่ 570,000-600,000 คัน และมาสด้าเชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีศักยภาพมากกว่าตัวเลขที่ประเมิน เพียงแต่ยังมีปัจจัยนอกเหนือการควบคุม ทั้งความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ และอัตราหนี้ครัวเรือนสูงที่ต้องจับตา
ส่วนเครือข่ายการจัดจำหน่ายนั้น ปีนี้มาสด้าใช้นโยบายปรับพื้นฐาน รื้อโครงสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่าย เพื่อเตรียมความพร้อมกับยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยจะพยายามรักษาฐานลูกค้าและสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแรง ซึ่งปัจจุบันมาสด้ามีโชว์รูมทั้งสิ้น 84 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น กรุงเทพฯ และปริมณฑล 19 โชว์รูม และต่างจังหวัด 65 แห่ง สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 250,000 คันต่อปี โดยจะใช้กลยุทธ์ PMA ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง