‘บีวายดี’ ปักธงนิคมฯ WHA ตั้งโรงงานผลิตรถ EV-PHEV
“บีวายดี” ทุ่มงบลงทุนซื้อที่นิคม WHA 600 ไร่ ผุดศูนย์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า กำลังผลิต 1.5 แสนคันต่อปี ปูพรมทั้งตลาดในประเทศและส่งออก คาดผลิตรุ่นแรก ยานยนต์ไฟฟ้า Autto3 ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 10,000 คัน พร้อมขยายโชว์รูมศูนย์บริการไม่น้อยกว่า 31 แห่งภายในปีนี้
นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด (BYD) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามซื้อที่ดินกับนิคม WHA ระยอง 36 จำนวน 600 ไร่ เพื่อจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยจะมีการจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ พร้อมซัพพลายเชนอีกจำนวนหนึ่ง ดำเนินการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าพวงมาลัยขวาที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ภายใต้กำลังการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าจำนวน 150,000 คันต่อปี เพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนและยุโรป คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2567
ในส่วนแผนงานด้านการทำตลาด บีวายดี ในประเทศไทย ค่ายรถยนต์จากจีน ได้ประกาศแต่งตั้งบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ภายใต้การดำเนินธุรกิจของ 2 พี่น้องตระกูลพรประภา นางสาวประธานพร พรประภา และนายประธานวงศ์ พรประภา ภายใต้การลงทุนมูลค่า 3,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายในปีแรกไว้กว่า 10,000 คัน มีโชว์รูมศูนย์บริการทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 31 แห่งในปีนี้ และปี 2566 จะขยายเพิ่มเป็น 60-70 แห่ง ขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าเป็น 1,000 หัวชาร์จ และตั้งเป้าหมายติดท็อป 5 ในตลาดรถยนต์ภายใน 5 ปีด้วย
ด้านนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมลำดับที่ 11 ของ WHA กรุ๊ป ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยการซื้อขายที่ดินครั้งนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 20 ปีของ WHA กรุ๊ป และยังเป็นการตอกย้ำถึงกลยุทธ์การสนับสนุนโครงการอีอีซี และการดึงดูดอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve industry) โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีผู้ผลิตชิ้นส่วนทยอยเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก
สำหรับการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ดังกล่าว บีวายดี มีแผนว่าจะประกอบรถยนต์รุ่นแรก คือ Autto3 ขายในไทยและส่งออกไปในแถบอาเซียน ส่วนที่ดินตั้งโรงงานนั้น บีวายดี ลงทุน 100% ผลิตรถอีวีเป็นหลัก ส่วนรถยนต์พีเอชอีวีนั้น ได้ขอสนับสนุนการลงทุนจากบีโอไอด้วย แต่จะเริ่มทำรถยนต์ไฟฟ้า 100% เป็นหลักก่อน