“ตลาดรถ” ยังเหนื่อย 9 เดือน 4.38 แสนคัน

ทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในเดือนกันยายน มียอดขายทั้งสิ้น 39,048 คัน ลดลง 37.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหลังผ่านไตรมาสที่ 3 ของปี มียอดขายสะสมทั้งสิ้น 438,659 คัน หดตัวลงถึง 25.3% จากปีก่อนหน้า โดยคาดว่าจะกระเตื้องขึ้นในเดือนตุลาคม จากการเสริมทัพและโปรโมชันจากหลากหลายค่าย
วิกฤติอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย บวกกับภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศ สร้างผลกระทบต่อหลายภาคส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ส่งผลโดยตรงต่อยอดขายในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มียอดขายทั้งสิ้น 39,048 คัน ลดลงถึง 37.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยโตโยต้าครองสัดส่วนสูงสุด 39.2% ด้วยยอดขาย 15,311 คัน ลดลง 27.6% รองลงมาได้แก่ อีซูซุ จำนวน 6,080 คัน ลดลง 44.2% ครองส่วนแบ่งตลาด 15.6% และ ฮอนด้าในอันดับ 3 จำนวน 4,365 คัน ลดลง 52.1% ครองส่วนแบ่งตลาด 11.2%
จำแนกเป็น ตลาดรถยนต์นั่ง ที่มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 15,668 คัน ลดลง 38.4% ซึ่งอันดับ 1 ได้แก่ โตโยต้า จำนวน 4,692 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 29.9% ตามด้วย ฮอนด้า จำนวน 3,426 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 21.9% ในอันดับ 2 และ มิตซูบิชิ ในอันดับ 3 จำนวน 1,395 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 8.9%
ส่วนในตลาดหลักอย่าง ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มีจำนวนทั้งสิ้น 13,972 คัน ลดลง 40.1% นำโดยโตโยต้า จำนวน 6,488 คัน ส่วนแบ่งตลาด 46.4% ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ อีซูซุ จำนวน 5,101 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 36.5% รองลงมาได้แก่ ฟอร์ด จำนวน 1,374 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 9.8%
โดยเป็นตัวเลขของรถกระบะดัดแปลงหรือพีพีวี จำนวนทั้งสิ้น 2,463 คัน ครองสัดส่วนมากที่สุดโดยอีซูซุ จำนวน 949 คัน ตามด้วยโตโยต้า จำนวน 798 คัน และฟอร์ด จำนวน 574 คัน รวมถึง มิตซูบิชิ จำนวน 97 คัน และนิสสัน ที่ขายได้ทั้งสิ้น 45 คัน
ในส่วนของตลาด xEV มียอดขายทั้งสิ้น 13,102 คัน คิดเป็น 34% ของตลาดรถยนต์ ลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ก่อนหน้า ซึ่ง HEV ครองสัดส่วนมากที่สุดจำนวนทั้งสิ้น 7,355 คัน คิดเป็น 56% ของตลาด xEV ขณะที่ BEV มียอดขาย 4,982 คัน ลดลง 32% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ เดือนมกราคม-กันยายน 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 438,659 คัน ลดลง 25.3% นำโดยโตโยต้า จำนวน 167,218 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 38.1% ตามด้วยอีซูซุ จำนวน 65,269 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 14.9% และฮอนด้า ในอันดับ 3 จำนวนทั้งสิ้น 58,311 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 13.3%
เป็นตัวเลขของตลาดรถยนต์นั่ง จำนวน 169,862 คัน ลดลง 22.7% ขณะที่รถเพื่อการพาณิชย์ มีจำนวนทั้งสิ้น 268,797 คัน ลดลง 26.8% ส่วนตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายสะสม 153,504 คัน ลดลง 40% แบ่งเป็นรถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) จำนวนทั้งสิ้น 26,944 คัน
โดยคาดว่ายอดขายในเดือนตุลาคมจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลพวงจากการขยับตัวเสริมทัพด้วยรถรุ่นใหม่ๆ บวกกับโปรโมชันกระตุ้นการตัดสินใจจากหลากหลายค่าย ที่จะเป็นแรงกระตุ้นการตัดสินใจจากผู้บริโภค เพิ่มความคึกคักให้กับตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปี