“ซีวิค” เริ่ม 1.039 ล้าน เพิ่มของ ไม่เพิ่มราคา

ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย เคาะราคาขาย ฮอนด้า ซีวิค รุ่นปรับโฉม ปี 2024 อย่างเป็นทางการ เริ่มต้น 1,039,000 บาท สำหรับขุมพลังเทอร์โบ และ 1,099,000 บาท สำหรับ e:HEV ยกระดับความสปอร์ต ทันสมัย ทั้งในเรื่องรูปโฉมและฟังก์ชันการใช้งาน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายด้วย 3 รุ่นทางเลือก
หลังจากที่ ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ได้เผยโฉมเวอร์ชันล่าสุดของ ฮอนด้า ซีวิค รถยอดนิยมประจำค่าย พร้อมเปิดโอกาสให้แฟนซีวิคได้จองสิทธิ์เป็นเจ้าของรุ่นปรับโฉม ปี 2024 สอดรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ด้วยขุมพลังทางเลือกทั้ง e:HEV และเทอร์โบ
ล่าสุด ค่ายฮอนด้าได้เคาะราคาจำหน่าย ฮอนด้า ซีวิค รุ่นปรับโฉม ปี 2024 อย่างเป็นทางการ เริ่มต้น 1,039,000 บาท สำหรับขุมพลังเทอร์โบใน รุ่น EL + ขณะที่ e:HEV EL+ มาภายใต้ราคา 1,099,000 บาท และรุ่น e:HEV RS ราคา 1,239,000 บาท ยกระดับการใช้งานด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน ทันสมัยยิ่งขึ้น
มร.ฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เป็นระยะเวลากว่า 40 ปี ที่ฮอนด้ามุ่งมั่นดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราทุ่มเทและให้ความสำคัญกับการลงทุน เพื่อพัฒนาและนำเสนอคุณค่าใหม่ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย”
“เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ xEV อย่างมั่นคง เรายินดีที่จะแนะนำ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ให้แก่ลูกค้า มาพร้อมการยกระดับหลากหลายด้าน ปรับโฉมดีไซน์ภายนอก เพิ่มฟังก์ชันและเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ครบครัน พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม”
สำหรับ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้รับการปรับโฉมด้วยดีไซน์ที่สปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว เติมเต็มด้วยไฟท้าย LED รมดำ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต ในรุ่น e:HEV RS ส่วนรุ่น EL+ เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร กว้างขวาง สะดวกสบาย สปอร์ต และทันสมัย ครบครันด้วยเทคโนโลยีที่เสริมความสะดวกสบายให้กับการใช้งาน มาพร้อมเบาะที่นั่งลายใหม่ Prime smooth วัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง รวมถึงแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างสีแดงสไตล์สปอร์ต ในรุ่น e:HEV RS
และวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำในรุ่น EL+ และ e:HEV EL+
เสริมความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง รวมถึงเซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และหลัง 4 จุด และโหมดการขับขี่แบบ Individual เพิ่มเติมมาในรุ่น e:HEV มาพร้อมระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง Google built-in แอปและบริการของ Google
ตอบสนองการใช้งานด้วย 2 ขุมพลังทางเลือก ทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน รีดพละกำลังสูงสุด 315 นิวตันเมตร และขุมพลัง VTEC TURBO ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ เฉพาะรุ่น EL+ และ e:HEV EL+, สีแดงอิกไนต์ เฉพาะรุ่น e:HEV RS, สีเทาเมทิเออรอยด์, สีเงินลูนาร์, สีดำคริสตัล และสีขาวแพลทินัม พร้อมภายในสีดำและสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เฉพาะรุ่น e:HEV RS