จอ…จ่อ…จ้อ…539 ขอบคุณ…คนยานยนต์ ที่ทำให้ยังเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ และยังสนับสนุนกัน
ในห้วงเวลาที่คนหันเหไปติดพันหน้าจอสี่เหลี่ยมกันมากขึ้น นั่นหมายถึง “สื่อสิ่งพิมพ์” ถูกลืมเลือนหายไป “รามอินทรา” นั้น ยอมรับในโลกของการเปลี่ยนแปลง แต่ลึกๆในใจยังชอบในการสื่อสารผ่านหน้ากระดาษมากกว่า อาจเป็นเพราะความคุ้นชินกับกลิ่นน้ำหมึกมานานถึงนานมาก แม้ว่า…วันนี้ตัวเองยังต้องก้าวข้ามไปเป็นคนสื่อออนไลน์บ้างแล้วก็ตาม ทุกครั้งที่เห็นหนังสือพิมพ์ จะรู้สึกใจฟู โดยเฉพาะตามร้านกาแฟ ในตลาดกม.2 “รามอินทรา” มีร้านกาแฟเจ้าประจำ ทุกครั้งที่แวะเวียนไปซื้อ ก็อดที่จะมองดูหนังสือพิมพ์รายวันที่วางอยู่บนโต๊ะ และยังมีคนหยิบไปอ่าน แม้ว่าจะบางลงไปบ้าง แต่ก็เป็นหนังสือพิมพ์ ร้านนี้จะมีให้อ่านทุกวัน ก้อ…รู้สึกยินดีกับสิ่งที่มองเห็นอยู่ตรงหน้า
มีอยู่วันหนึ่ง “รามอินทรา” ไปซื้อของกินแถวบ้านในหมู่บ้านชินเขต เห็นเจ้าของร้านเอาหนังสือพิมพ์มากางบังแดด ก็ยังอดยินดีไม่ได้ เลยถามคนขายว่า…เอาหนังสือพิมพ์ที่ไหนมากาง เค้าก็บอกว่ายังอ่านอยู่ ยังอยากอ่านหนังสือพิมพ์มากกว่าที่จะดูตามหน้าจอสี่เหลี่ยม ที่รู้สึกมีความยุ่งยากมากกว่า เลื่อนไปเลื่อนมาปวดตามากกว่า สิ่งที่รู้สึกได้…ยังคงมีคนอ่านหนังสืออยู่ เพียงแต่อาจน้อยลงจนแทบหาไม่เจอ แต่ก็ต้องยินดีเพราะได้ยินเสียงของคนที่บอกว่า…ยังอ่านหนังสืออยู่ ในฐานะที่ “รามอินทรา” ยังรักการเป็น “คนสื่อสิ่งพิมพ์” รวมถึงยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้หนังสือพิมพ์ยวดยาน สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง ก้อ…ดีใจที่คนยานยนต์ยังคงให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา
อีกเรื่องหนึ่งที่ “รามอินทรา” ยังมีความสุข ก้อ…การที่ยังคงได้จัดทำสูจิบัตรมอเตอร์โชว์ ไว้แจกจ่ายภายในงานทั้ง 12 วัน เป็นสูจิบัตรที่น่าจะมีขนาดใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ สิ่งที่แตกต่าง…นอกจากจะเปลี่ยนหน้าปกทุกวันแล้ว ยังเปลี่ยนเนื้อในอีก 1 ครั้ง ด้วยเหตุนี้…ในช่วง 6 วันหลังของงาน ข่าวและรูปจะค่อนข้างอัพเดทเป็นภาพสดๆที่ทีมงานจัดการเปลี่ยนใหม่ในกรอบหลัง สูจิบัตรมอเตอร์โชว์จึงเป็นอีกการทำงานที่แข่งกับเวลาอย่างแท้จริง ถ้าไม่มีโรงพิมพ์เองคงยากที่จะจัดการได้ ใครที่แวะเวียนไปชมงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ก็ลองหยิบติดมือกลับบ้าน เป็นสูจิบัตรที่พิมพ์ด้วยกระดาษปอนด์ทั้งเล่ม 4 สี เป็นรูปแบบที่กล้าบอก ในห้วงเวลาเยี่ยงนี้ คงไม่มีใครจัดทำได้ เพราะนอกจากต้องมีโรงพิมพ์แล้ว ยังต้องได้รับการสนับสนุนจาก “คนบริษัท” อีกด้วย
วันเปลี่ยนเวลาผ่าน… “รามอินทรา” ยังยืนยันจะรักษาความเป็น “คนสื่อสิ่งพิมพ์” ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ยวดยาน จะยังคงอยู่คู่กับคนยานยนต์ต่อไป ขอบคุณที่ยังดูแลกัน ขอบคุณที่ยังติดตามสนับสนุนกัน และขอบคุณที่ทำให้ยังมีงานเขียนหนังสือทุกสัปดาห์ เป็นอีกเรื่องที่หยิบมา จอ…จ่อ…จ้อ ให้อ่านกันขอบคุณจริงๆ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
20 มีนาคม 2567