“ค่ายจีน” ชิงแชร์รถไฟฟ้า ขับเคี่ยวเข้มข้น สร้างกระแสนิยม

ทิศทางการทำตลาดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีน ขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นด้วยจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ชูความโดดเด่นในรูปแบบที่แตกต่างกันไป โดยมีกลยุทธ์ด้านราคาเป็นหนึ่งอาวุธสำคัญที่เรียกยอดจองจากผู้บริโภค อย่างไรก็ดียังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อ เพื่อเปลี่ยนจากยอดจองให้เป็นยอดจริงในท้ายที่สุด
อุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าร่วมขับเคลื่อนและสร้างกระแส เติมสีสันให้กับตลาดในบ้านเรา โดยเฉพาะค่ายผู้ผลิตประเทศจีนที่มองเห็นโอกาสและทิศทางการเติบโตในประเทศไทย แท็กทีมเข้ามาบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
สอดรับกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ด้วยมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐบาล ที่ส่งผลโดยตรงด้านราคาจำหน่ายโดยใช้กลไกด้านภาษีเป็นตัวขับเคลื่อน มุ่งหวังให้เกิดการขับเคี่ยวในท้องตลาด รวมถึงกระตุ้นการลงทุนในบ้านเรา โดยแต่ละค่ายมีทิศทางการดำเนินธุรกิจหลากหลายรูปแบบ ทั้งทุ่มเม็ดเงินสร้างโรงงานผลิตเองและจ้างผลิต เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขจากภาครัฐบาล
ไล่เลียงจาก ค่ายเอ็มจี ในบทบาทของผู้ประเดิมตลาดและสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคในประเทศไทย ด้วย เอ็มจี แซดเอส อีวี เอสยูวีพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายในปี 2019 ตามมาด้วยคำถามถึงความพร้อมของระบบนิเวศน์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในบ้านเรา ซึ่ง เอ็มจี นับเป็นหนึ่งในผู้วางรากฐานสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้ารถยนต์ในบ้านเรา ร่วมกับค่ายยุโรปที่เดินหน้าขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมการใช้งานเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
หลังการรับรู้และเรียนรู้ของผู้บริโภค ส่งผลให้รถไฟฟ้าค่ายเอ็มจี ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน และขยับตัวเพิ่มทางเลือกด้วย เอ็มจี อีพี ภายใต้รูปโฉมของรถแวกอน แม้จะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าตัวแรก แต่ก็สามารถเก็บเกี่ยวยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ เอ็มจี แซดเอส อีวี รุ่นใหม่ จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและสร้างยอดขายให้กับเอ็มจี
ด้วยความเชื่อมั่นและความนิยมจากลูกค้าในประเทศไทย เป็นแรงผลักดันสำคัญให้ เอ็มจี4 เข้ามาเป็นทางเลือกรุ่นล่าสุดในตลาด ส่งผลให้ เอ็มจี มีตัวเลือกมากที่สุดในบรรดาค่ายร่วมชาติ ทั้งยังคงเป็นผู้เล่นหลักและมีส่วนสำคัญในการเติบโตของตลาด ในบทบาทของผู้บุกเบิกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย
ตามด้วย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ก้าวเข้าร่วมวงภายใต้แบรนด์โอร่า พร้อมเปิดตัว โอร่า กู๊ดแคท ในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เป็นจุดเริ่มต้นของกระแสรถไฟฟ้าฟีเวอร์ระลอกใหญ่ ด้วยเม็ดเงินลงทุนมหาศาลทั้งด้านการผลิตและการทำตลาดเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างการเติบโตให้กับเซ็กเมนต์ดังกล่าวแบบก้าวกระโดด ทว่าจังหวะต้องสะดุดจากวิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้ตลาดไม่เติบโตเท่าที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม ด้วยการตอบรับที่ดีเยี่ยม ส่งผลให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าสานต่อความนิยมด้วย โอร่า กู๊ดแคท จีที ยกระดับการใช้งานทั้งในเรื่องของสมรรถนะและรูปโฉมที่สปอร์ตยิ่งขึ้น ซึ่งมีให้จับจองเป็นเจ้าของในจำนวนจำกัด แต่ด้วยตัวเลือกที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดจองถูกแชร์ไปจากผู้เล่นรายใหม่ที่ก้าวเข้ามาทำตลาดในประเทศอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
โดย เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) เปิดตัวบริษัทและผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ประเดิมตลาดด้วย เนต้า วี หลังจากที่ได้อวดโฉมภายในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค นับเป็นการขยับตัวที่น่าสนใจอีกครั้งจากค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีน ด้วยรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย บวกกับความน่าสนใจของเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยเสริมสมรรถนะให้การขับขี่ สร้างความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ และเรียกยอดจองได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ บีวายดี ภายใต้การคอนโทรลของ เรเว่ ออโตโมทีฟ ส่ง บีวายดี อัตโต้ 3 ลงชิงชัยในตลาดรถไฟฟ้า มาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับคู่แข่งในตลาด สามารถเดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดจอง เติมเต็มกระแสนิยมของยานยนต์พลังงานทางเลือกในบ้านเราที่เติบโตขึ้นเป็นลำดับ นับเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้บริโภคด้วยทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเช่นกัน
แต่ด้วยทางเลือกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงข้อเสนอที่หลากหลาย บวกกับวิกฤติด้านการผลิตที่ส่งผลต่อการส่งมอบรถ ส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยจองไว้เผื่อเลือก ค่ายไหนมีรถให้ก่อนก็พร้อมจะทิ้งใบจองค่ายที่เหลือ ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญสำหรับค่ายผู้ผลิตจะสามารถลบภาพยอดจองทิพย์ และแปรเปลี่ยนยอดจองมาเป็นยอดจริงได้มากน้อยเพียงใด ในยุคที่คนไทยพร้อมจะเลือกใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หากสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดและดีจริง