คาร์ซัม พลิกโฉมตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยในรูปแบบดิจิทัล ซื้อขายรถยนต์มือสองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่งแคมเปญเด็ด พร้อมแท็กไลน์ ‘จบทุกปัญหาซื้อ-ขายรถมือสองไม่ได้มาตรฐาน’ มั่นใจดันยอดขายโตต่อเนื่อง หลังไตรมาสแรกโตแล้วกว่า 50%

นายศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์ กรรมการผู้จัดการ คาร์ซัม ประเทศไทย กล่าวว่า คาร์ซัม เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับรถยนต์มือสองครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเป้าหมายกระตุ้นตลาดรถมือสองออนไลน์ พร้อมยกระดับด้วยการเปิดตัวแคมเปญการตลาดพร้อมแท็กไลน์ ‘จบทุกปัญหาซื้อ-ขายรถมือสองไม่ได้มาตรฐาน’ ซึ่งแคมเปญนี้มุ่งยกระดับตลาดรถมือสองแบบดิจิทัลในประเทศไทย สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ในการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อสร้างสรรค์ระบบนิเวศของการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุด

แท็กไลน์ใหม่สะท้อน 3 ธีมหลักของแบรนด์คาร์ซัม ได้แก่ ความน่าเชื่อถือ: การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ 175 จุด และการคัดเลือกรถยนต์อย่างเข้มงวดเพื่อสร้างความมั่นใจในราคาที่ยุติธรรม ความโปร่งใส: ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝงหรือค่าธรรมเนียมใดๆ และทุกกระบวนการตรวจเช็กไม่มีค่าใช้จ่าย ทางเลือกที่หลากหลาย: เพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่ราบรื่นและไร้กังวลด้วยการนัดหมายผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมบริการเสริมอีกมากมายตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้นกระบวนการ อีกทั้งมีรถยนต์จำนวนมากและหลากหลายให้คุณได้เลือกสรร

นายศิวภูมิ กล่าวว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ ยอดขายรถโตขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และยังมีการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายหลักของ คาร์ซัม คือการมอบความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความอุ่นใจให้แก่ลูกค้า เมื่อซื้อรถยนต์มือสอง และเชื่อว่าการนำเสนอแคมเปญการตลาดใหม่นี้จะมีบทบาทสำคัญในการสื่อสารกับผู้บริโภคโดยสะท้อน 3 ธีมหลักของแบรนด์คาร์ซัม ซึ่งก็คือ ความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และทางเลือกที่หลากหลาย ที่สามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาที่เกี่ยวกับการซื้อและขายรถยนต์มือสอง

“เราเห็นศักยภาพการเติบโตของการซื้อรถยนต์มือสองตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่ง 25% ของคนไทยจำนวน 300 คนที่วางแผนซื้อรถยนต์ภายใน 1 ปี มีการพิจารณาซื้อรถยนต์มือสอง และ 13% จากกลุ่มสำรวจนี้สนใจซื้อรถยนต์มือสองจากผู้แทนจำหน่ายที่มีหน้าร้าน โดย CARSOME เอง ได้นำเสนอแพลตฟอร์มซื้อและขายรถยนต์มือสองที่ไว้วางใจได้ ซึ่งไม่เพียงมีเว็บไซต์ แต่ยังมีหน้าร้านสาขาต่างๆ เป็นทางเลือกให้ลูกค้าทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์” นายศิวภูมิ กล่าวเพิ่มเติม