หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,133 ประจำวันที่ 2 – 8 มิถุนายน 2568 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวในแวดวง “คนยานยนต์” ในสถานการณ์ที่ต้องบอก…ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง ด้วยปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ยากจะปฏิเสธตัวเลขยอดจองนั้น หาได้ยากมาก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า หรือรถน้ำมัน แม้ว่า…ยอดจองในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ จะเป็นตัวเลขที่สวยสด แต่…สุดท้ายยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่า…จะสามารถเก็บเกี่ยวมาได้สักเพียงไหน? แต่ “รามอินทรา” ก็ยังเชื่อมั่น…ในวิกฤติยังมีโอกาส ขอเพียงแต่ละค่ายยานยนต์ อย่าเพิ่งท้อถอย เพราะเวลาของปี 68 ยังคงเหลืออีกเกือบ 8 เดือน แต่สิ่งที่ “รามอินทรา” ยังสัมผัสได้ เป็นยอดขายจากรถเก๋งเล็ก นั่นแสดงให้เห็นว่า…รถยนต์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของคนไทย ที่ยังไงก็ยังอยากเป็นเจ้าของสักคัน และนั่นจะส่งผลให้ตัวเลขที่ไม่คาดหวัง สามารถกลายเป็นความหวังได้ “รามอินทรา” เอาใจช่วยให้ทุกค่ายค้นหาความสำเร็จได้ ขอเพียงให้เชื่อมั่นในตัวเอง และค้นหาโอกาสให้เจอะเจอ…*** จากบรรยากาศแห่งคนยานยนต์ “รามอินทรา” พาไปหาข่าวทั่วไป ข่าวแรกกับข่าวของรถยนต์นิสสันในประเทศไทย ที่ไม่ได้มีส่วนกับข่าวการปลดพนักงานของ “นิสสัน” ในหลายประเทศ รวมถึง…สถานการณ์ที่แม้ว่า…อาจจะยังไม่โอเคขึ้น…แต่ยังไงก็ยังไม่ถึงกับโนเค เพราะยังรอที่จะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มาแก้สถานการณ์ “รามอินทรา” เอาใจช่วยให้ทุกอย่างโอเคนะครับ…*** อีกความน่าสนใจที่ “รามอินทรา” อยากเขียนถึง…เป็นเรื่องของยอดจองของโตโยต้า ยาริส เอทีฟ ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ยังสามารถเก็บเกี่ยวยอดจองได้เป็นหลักเกินหมื่น ในเวลาแค่ 3 เดือน แต่…เส้นทางที่จะก้าวย่างสู่ “ไฮบริด” นั้น ยิ่งน่าสนใจมากกว่า เมื่อวันนี้…สถานการณ์รถไฟฟ้ายังเกิดอาการโลเล ไม่ชัดเจนเรื่องราคา ที่ลดกันง่ายๆ เหมือนไม่ห่วงความรู้สึก “คนที่ซื้อไปก่อน” …*** อีกค่ายที่ “รามอินทรา” อยากเห็นความชัดเจน เป็นรถยนต์ฮอนด้า ที่ก้าวล้ำไปกับรถไฮบริดมาก่อนหน้านี้ ในสถานการณ์เยี่ยงนี้…ถ้าจะเปิดเกมแบบชัดๆ อย่างฮอนด้า ซิตี้ ก้อ…เชื่อว่าน่าจะเก็บเกี่ยวยอดขายได้มากยิ่งขึ้น ไม่รู้ “นายญี่ปุ่น” มร.โคจิ อิวานามิ จะคิดยังไงกับเรื่องที่เขียน…*** จากความหวังของ “รามอินทรา” เรื่องของไฮบริด ทำให้อดมองไปหาความเคลื่อนไหวของค่ายรถหรู แม้ว่าสถานการณ์จะยากลำบาก แต่ “รามอินทรา” ก็ยังเชื่อว่า…ยังมีคนอยากเป็นเจ้าของ แม้จะไม่เต็มร้อย แต่ก็ยังถือว่าโอเค แต่ทั้ง 3 ค่ายไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู หรือวอลโว่ ก็ยังพอเอาตัวรอดได้…*** อีกค่ายที่ “รามอินทรา” ยอมรับว่าผูกพัน เป็นค่ายรถยนต์มาสด้าที่ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ กับการก้าวขึ้นมาเป็น “จอมทัพ” ของ ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ที่จะต้องสร้างมิติใหม่แห่งรถยนต์มาสด้า เพื่อเติมเต็มความหลากหลายหลังการเดินสายเสริมความเชื่อมั่นให้กับคนขายทั่วประเทศเรียบร้อยแล้ว ซึ่งวันนี้คงได้เห็น “ทีมมาสด้า” เปิดตัวเคียงข้างกันมากขึ้นด้วย และอีกคนที่ต้องเหนื่อยไม่แพ้ใคร เป็น “ไอ้หนุ่มหน้ามน” อุทัย เรืองศักดิ์ นั่นเอง…*** แต่…ถ้าไม่เขียนเอาใจกับสถานการณ์นั้นยากลำบากจริงๆ เป็นเรื่องยากมากกับการค้นหาความสำเร็จ เพราะปี 68…ยังมีเวลาเหลือให้ได้ค้นหาโอกาส อีกเรื่องที่ “รามอินทรา” รู้สึก แวดวงยานยนต์ไทย ยังไงก็ยังเป็นอีกเศรษฐกิจหลัก รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ยังไงก็ยังเป็นความจำเป็นของคนไทย จะจำเป็นด้วยเหตุผลอะไร ไม่สำคัญ  แต่…ยังไงก็ขอเป็นเจ้าของสักคัน เรื่องหาโอกาสคนไทยนั้นถนัด อยู่แค่ว่า…จะหาหรือไม่? ยังไงก็ต้องมีโอกาสสักครั้ง เชื่อ “รามอินทรา” เถอะ…*** แวดวงรถยนต์ยังต้องพลิกวิกฤติเพื่อหาโอกาส ขณะที่แวดวงรถจักรยานยนต์นั้น “รามอินทรา” เชื่อว่า…ยังไม่เจอะเจอวิกฤติ เพียงแต่สถานการณ์เท่านั้นที่อาจจะไม่ง่ายเหมือนห้วงเวลาปกติ อาจยากลำบากมากขึ้นบ้าง เมื่อต้องการยอดจองตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยเพราะความยากลำบากด้านเศรษฐกิจ ที่ทำให้คนอยากเป็นเจ้าของไม่อาจเป็นได้ตามต้องการ เป็นวังวนของเศรษฐกิจ แต่ยังไงก็ยังไม่ยากลำบากเหมือนแวดวงรถยนต์…*** อีกประการ…การแข่งขันที่นับแล้วเหลือกันแค่ 2 ยี่ห้อ เป็นฮอนด้ากับยามาฮ่า ซึ่งยังไงก็ไม่เหนื่อยเท่ามีคู่แข่งนับสิบยี่ห้อ แต่…ไม่ว่ารถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ยังไง “รามอินทรา” ก็เอาใจช่วยให้เดือดร้อนน้อยถึงน้อยที่สุด มีอะไรอยากให้ “ยวดยาน” หรือ “รามอินทรา” ช่วยนำเสนอ ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ขอเพียงแค่ส่งข่าวมา พร้อมและยินดีนำเสนอแบบไม่มีข้อแม้…*** ย่อหน้าสุดท้ายปลายคอลัมน์ “รามอินทรา” ฝากถึงคนรักกัน กับงานครบรอบหนังสือพิมพ์ยวดยาน 27 มิถุนายน อย่าลืมรอรับ “การ์ดเชิญสวยๆ” ที่กำลังจัดเตรียมจะส่งให้ในอีกไม่นานเกินรอ ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ ส่วนรายละเอียดรอรับ “การ์ดเชิญ” ก่อนนะครับ…*** พบกันใหม่ สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ