คนในสังคม ฉบับ 1,050
หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,050 ประจำวันที่ 30 ตุลาคม-5 พฤศจิกายน 2566 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับวังวนแห่งการช่วงชิงความสำเร็จในห้วงเวลาสุดท้ายของปี 2566 อยากรู้ 3 เดือนนั้น จะทำให้แต่ละค่ายยานยนต์ สามารถเสาะแสวงหา “ยอดจอง” ได้มากน้อยเพียงใด เมื่อวันนี้…ประเทศไทยยังต้องเจอะเจอหลากหลายปัญหา ทั้งในและนอกประเทศ ยังไม่มีใครให้คำตอบ…สงครามอิสราเอล-ฮามาส จะทำให้เกิดผลกระทบเยี่ยงไรบ้าง? เพราะยังไม่ทราบตัวเลข “คนไทย” ที่ตายไปจะเป็นจำนวนเท่าไหร่? แน่นอน…ทั้งหลายทั้งปวงล้วนสะสมเป็นผลกระทบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย ที่รัฐบาลมุ่งมั่นจะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท แบบไม่ฟังเรื่องคนค้าน ที่มีผู้ว่าฯแบงค์ชาติรวมอยู่ด้วย บทพิสูจน์…หลักเศรษฐศาสตร์กับหลักรัฐศาสตร์ ใครจะผิด ใครจะถูก แค่อยากถาม…ถ้าสุดท้าย ประเทศชาติเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ จะมีคนหนีออกไปต่างประเทศอีกหรือไม่? …*** คำถามนี้ก็น่าสนใจ… 3 เดือนสุดท้าย…จะได้เห็นความคึกคักจาก “รถน้ำมัน” มากน้อยเพียงใด เมื่อผลพวงจาก 9 เดือนแรกตัวเลขหดหายไป “รถเก๋ง” จะทำให้ได้เห็นความคึกคักหรือไม่? หรือจะได้เห็นความคึกคักแค่รถปิกอัพกับรถเอสยูวีเท่านั้น เยี่ยงนี้ “ยอดขาย” เมื่อสิ้นเดือนสุดท้ายจะลดลงแค่ไหน? “รามอินทรา” หวังว่าน่าจะต่ำกว่า 10 เปอร์เซ็นต์นะครับ…*** อีกความคาดหวัง…ปลายปีมีงานใหญ่ให้เก็บเกี่ยวยอดจองกัน น่าจะได้เห็นการเปิดเกมแคมเปญของแต่ละค่ายบ้างไม่มากก็น้อย เพราะที่ผ่านมา “บางค่าย” ก็ดูเหมือนจะเทหมดหน้าตักแล้วละ กับแคมเปญที่หวังจะสามารถเก็บเกี่ยวยอดจองได้บ้าง? ได้น้อยยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ยกมือเชียร์ครับ…*** อีกเรื่องที่ได้เห็นมากขึ้น การขายรถในห้างสรรพสินค้าที่ห่างหายไปในช่วงโควิด-19 แม้ว่าจะเป็นของ “ดีลเลอร์” จัดการกันเอง แต่ก็เป็นอีกการค้นหาความสำเร็จที่ห่างหายไปนาน ก้อ…เปิดเกมยังงี้ น่าจะเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ…*** เรื่องนี้ก็น่าสนใจ… “รามอินทรา” คุยกับพรรคพวกเรื่องสถานการณ์ของยานยนต์ไทย ช่วง 3 เดือนสุดท้ายเป็นอย่างไร? ก้อ…คิดคล้ายๆ กัน วันนี้ถ้าเสียงตอบรับจากคนไทยยังอยากได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท แสดงว่า…สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจยังไม่เอื้ออำนวย รวมถึงความคาดหวังของ “ภาครัฐ” จะกระตุ้นความคึกคัก จุดกระแสให้ได้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ เรื่องจะคาดหวังให้คนอยากเป็นเจ้าของรถยนต์คันใหม่ น่าจะยากยิ่ง คนซื้อรถน่าจะเป็นคนมีตังค์เจ้าเดิมเจ้าเก่านั่นแหละ แค่…จะอยากซื้อเพื่ออะไร? …*** ถ้าจะให้คาดหวัง “รามอินทรา” ยังอยากเห็นความคึกคักแห่งรถปิกอัพที่เป็นรถทำมาหากิน โดยเฉพาะ… “ชาวสวนชาวไร่” ที่ไม่อาจรอความหวังจาก “พ่อค้าคนกลาง” จำเป็นต้องมีรถสักคัน นี่แหละเป้าหมายชัดเจน ต้องเป็นรถปิกอัพเท่านั้น เอาใจช่วยให้จับจองกันเยอะๆ…*** ย่อหน้าสุดท้ายกับข่าวคนมอเตอร์ไซค์ ยอมรับยังหวัง 3 เดือนสุดท้าย…ทั้งคาวาซากิและซูซูกิจะมีแรงกระเพื่อมให้ได้เชียร์กันบ้าง อยากเห็นรถรุ่นใหม่ๆ มาเป็นตัวเลือกสอดแทรกกับเจ้าเดิมๆ อย่างฮอนด้าและยามาฮ่ากันบ้าง เขียนยังงี้…ยังไม่รู้ว่าจะได้เห็นหรือไม่? แหม…แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์นั้น สวยสดงดงามเสมอนะครับ…*** ย่อหน้าสุดท้าย… “รามอินทรา” บันทึกคำขอบคุณถึง “ผู้ชายตัวโต” กมลชนก เจริญจินดารัตน์ ที่ส่งรถยนต์นิสสัน คิกส์ มาเพื่อให้ได้รับประสบการณ์การขับขี่แบบรถไฟฟ้า ที่ไม่ต้องรอชาร์จ เพราะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ แถมวันนี้…มีแคมเปญพิเศษ อยากรู้ต้องเดินเข้าโชว์รูมนิสสัน แล้วไปถามรายละเอียดดูเอาเอง ไม่อยากโฆษณาให้ฟรีๆ แต่ก็ยอมรับว่า ลองแล้วโอเคเลย กะทัดรัดและประหยัดจริงๆ ขอบคุณนะ “เบนซ์” …*** พบกันใหม่ฉบับหน้าครับ