ก้าวแรก..ด้วยหัวใจที่รักการขี่มอเตอร์ไซค์
ก้าวแรก..ด้วยหัวใจที่รักการขี่มอเตอร์ไซค์ ทำให้ “ก้อง” หนุ่มชลบุรี กลายเป็นเด็กปั้นของโครงการฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล ผ่านการฝึกฝน ผ่านความยากลำบาก แต่ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น จากปี พ.ศ. 2550 กลายเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จ ที่ทำให้สนามประลองความเร็วระดับโลก มีชื่อ สมเกียรติ จันทรา ยืนผงาดในระดับเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นคนแรกของประเทศไทย แต่ละก้าวย่างผ่านหลากหลายเรื่องราว จึงน่าสนใจยิ่งนัก
ลำดับเส้นทางของ “สมเกียรติ จันทรา” ด้วยอายุเพียง 15 ปี หลังผ่านการแข่งขันในรุ่นออโตเมติก 100 ซี.ซี. ต่อด้วย CBR200 ก็ก้าวผ่านการคัดเลือกจากนักบิดกว่า 600 คน เป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทย สู่สนามเอเชีย ทาเลนต์คัพ แต่น่าเสียดายที่บาดเจ็บ จนแข่งได้เพียง 2 สนาม 4 เรซ แต่ยังเก็บแต้มได้ถึง 61 คะแนน รั้งอันดับที่ 12 ที่สำคัญ กลายเป็นประสบการณ์ที่ทำให้สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในปีถัดมา ที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย
ปี 2017 “ก้อง” ก้าวออกจากบ้านเกิด สู่เวทีระดับโลก ด้วยรายการ เอฟไอเอ็ม ซีอีวี โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นรายการปั้นนักบิดสู่โมโตจีพี แล้วก็ฉายแวว คว้าโพลโพซิชันมาครอง ก่อนจะไปเติมแววด้วยอันดับ 8 ที่เลอมังส์ และอันดับ 7 ที่อารากอน ปิดท้ายฤดูกาลด้วยอันดับที่ 20 แบบอนาคตสดใส ชัดเจน ทำให้ปีถัดมาสามารถเก็บแต้มได้อย่างต่อเนื่อง จบท็อปเท็น ถึง 5 เรซ และอันดับ 4 ที่เลอมังส์ “ก้อง” ปิดปีอย่างได้ใจกองเชียร์ เมื่อคว้าสิทธิ์ไวลด์การ์ด จบอันดับ 9 รายการ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 รุ่นโมโตทรี
ไล่เลียงเส้นทาง “ก้อง” ในช่วงเริ่มต้น หลังผ่านการสั่งสมประสบการณ์ จนเข้าสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อได้รับโอกาสจากฮอนด้า ทีมเอเชีย กับการแข่งขันโมโตทู การได้ร่วมงานกับเพื่อนซี้ ไอ โอกุระ ในฐานะทีมเมต พร้อมด้วยทีมช่างชุดใหม่ เมื่อปรับจูนลงตัว ผลงานก็กระฉูด ที่เรดบูลล์ ริง ประเทศออสเตรเลีย ด้วยอันดับ 8 ต่อด้วยอันดับ 5 ที่ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ปีต่อมา “ก้อง” เริ่มต้นแบบน่าใจหายกับอุบัติเหตุที่กาตาร์ จนต้องถอนตัวจากการแข่งขัน
แต่… “ก้อง” ก็ทำให้คนไทยส่งเสียงเฮอย่างมีความสุข ณ สนามมันดาลิก้า สตรีท เซอร์กิต เมื่อเห็นเสื้อเบอร์ 35 คว้าธงตาหมากรุก สร้างประวัติศาสตร์คนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ได้เห็นธงชาติไทยโบกสะบัดสู่สายตาคนทั้งโลก และยังส่งความฮอตไปยังสนามถัดไปที่ อาร์เจนตินา เมื่อก้าวขึ้นโพเดียมด้วยอันดับ 2 แต่ที่ทำให้ถูกจับจ้อง นอกจากฝีมือที่พ้ฒนาแล้ว เป็นบุคลิกสไตล์ไทยแลนด์ สนุกสนานเป็นกันเอง แจกรอยยิ้มทุกครั้งที่อยู่กลางวงสื่อ เลยได้ใจแบบเกินร้อย
อีกบันทึกความเป็น “ก้อง” ตั้งแต่จบการแข่งขันที่ซานมารีโน กรังด์ปรีซ์ ประเทศอิตาลี คือคนไทยคนแรกที่เก็บคะแนนสะสมได้มากกว่า 100 แต้มในฤดูกาลเดียว รวมถึงการคว้าตำแหน่งโพลโพซิชันเป็นครั้งแรกของฤดูกาล ที่สนามช้างฯ เซอร์กิต แม้สุดท้ายจะพลาดแชมป์จากการล้ม แต่ก็ได้ใจจากกองเชียร์คนไทยทั่วประเทศ ด้วยผลงานที่ผ่านมา ที่พิสูจน์ได้ชัดเจนถึงการก้าวสู่การเป็นนักบิดระดับโลก
ก้าวต่อไป… “ก้อง” ยังคงได้ร่วมงานกับอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ต่อไปอีก 1 ฤดูกาล แท็กทีม ไอ โอกุระ เพื่อนซี้ชาวญี่ปุ่น ฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งคู่สามารถทำคะแนนประเภททีม 370 คะแแนน ซึ่งในฤดูกาล 2023 ที่กำลังจะมาถึงในเดือนมีนาคม เชื่อมั่นว่าคู่หูดูโอจะแท็กทีมสร้างผลงานกระหึ่มโลกความเร็วได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะพัฒนาการจาก “ก้อง” ที่เชื่อว่าจะไม่ทำให้คนไทยผิดหวังอย่างแน่นอน โปรดติดตาม
ทุกก้าวย่างของ “ก้อง” ชัดเจน คือพัฒนาการของความเป็นนักบิดระดับโลก ที่มีองค์ประกอบครบถ้วน สำคัญที่สุด เป็นหัวใจนักสู้ ที่คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ตอกย้ำด้วยคำยืนยันของเจ้าตัว
“ผมจะเก็บทุกความผิดพลาดของเมื่อวานนี้ เพื่อสะสมเป็นประสบการณ์และนำไปสร้างความสำเร็จในวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกการสนับสนุน”
วันวาน…ทุกก้าวย่างของ “ก้อง” ที่เต็มไปด้วยขวากหนาม แต่กลับเติมเต็มเป็นประสบการณ์ ที่ไม่ใช่ใคร ก้อ…สามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นความสำเร็จได้
วันนี้…แม้จะเจอะเจอความสำเร็จ แต่ยังคงต้องก้าวต่อไป ยิ่งยากลำบาก ยิ่งท้าทาย เพราะปลายทางเหมือนความฝันสูงสุด กับการก้าวขึ้นโพเดียมในตำแหน่ง “แชมป์”
ก้อขอเป็นอีกสองมือที่จะช่วยประคับประคอง “ก้อง” ทุกครั้งที่ล้ม ขอให้เป็นพลังที่จะลุกขึ้น เพื่อความสำเร็จในก้าวต่อไป