ลองขับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ 2.4 พลัส อัลตร้า มิติใหม่รถปิกอัพ

หลังการปรากฏตัวอย่างเป็นทางการของกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน เจเนอเรชันที่ 6 เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา พร้อมเดินเครื่องทำตลาดในประเทศไทยเป็นที่แรกทันที โดยวางเป้าไปที่รุ่นดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 อัลตร้า ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์รถกระบะที่ขายดีที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งครั้งนี้ “ยวดยาน” จะพาไปทำความรู้จักและทดลองขับกับรถกระบะรุ่นนี้ว่า จะมีความโดดเด่นมากน้อยเพียงใด ไปติดตามกันเลยครับ
สำหรับรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน เปิดตัวทำตลาดไปทั่วโลกแล้วกว่า 5 เจเนอเรชัน จนมาถึงปัจจุบัน รถกระบะรุ่นนี้ได้ถูกออกแบบและพัฒนาภายใต้แนวคิด “The Disruptor ปฏิวัติความเชื่อ” มาพร้อมโครงสร้างตัวถังใหม่, แชสซีใหม่, ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ ไฮเปอร์ พาวเวอร์ ซึ่งกระบะ ไทรทัน เจเนอเรชันที่ 6 มีความโดดเด่นอยู่ที่ตัว MEGA FRAME ที่ถูกผลิตด้วยเหล็กแรงดึงสูง High-Tensile Steel ทำให้ตัวเฟรมมีขนาดใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น แต่มีน้ำหนักเบาลง ทำงานผสานกับช่วงล่างและระบบกันสะเทือนใหม่
โดยกระบะรุ่นที่เราได้ทดสอบในครั้งนี้คือ รุ่นดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 อัลตร้า สนนราคา 1,027,000 บาท โดยกระบะรุ่นนี้นับเป็นรุ่นที่ขายดีเป็นอันดับต้นๆ ในเซ็กเมนต์ตลาดรถกระบะของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งภายหลังการเปิดตัว “มิตซูบิชิ” ยังคงมุ่งเป้าไปที่การขายกระบะรุ่นนี้เป็นเป้าหมายแรก เคียงคู่กับตัวซิงเกิ้ล แค็บ ที่มีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเซ็กเมนต์อื่นๆในตลาดรถกระบะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาส่องกล้องกับ มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ 2.4 พลัส อัลตร้า กันเลยดีกว่า เริ่มด้วยในเรื่องของดีไซน์ตัวรถ เราจะสังเกตได้ว่าตัวรถดูมีความใหญ่ขึ้นในทุกมิติ งานออกแบบซึ่งยังคงความเป็น Dynamic Shield ไว้ตามสไตล์รถยนต์ “มิตซูบิชิ” สมัยใหม่ ส่วนมุมมองในเรื่องของดีไซน์ซึ่งก็แล้วแต่บุคคล บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ ก็ว่ากันไป แต่โดยรวมถือว่ากระบะคันนี้มีการพัฒนาใหม่ทั้งหมด เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ครอบคลุมทั้งไลฟ์สไตล์และการใช้งานบรรทุก
ขยับมาที่ภายในห้องโดยสาร การออกแบบการจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ก็ไม่ได้สร้างความแปลกตาสักเท่าใด เพียงการดีไซน์การจัดวางที่มาในรูปแบบใหม่ ตัวคอนโซล เรือนวัดไมล์ ก็ยังคงคอนเซปต์ของรถยนต์ “มิตซูบิชิ” เอาไว้เช่นเดิม ที่ดูว่าว้าวก็น่าจะเป็นหน้าจอมัลติฟังก์ชันที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และปุ่มควบคุมที่ดูทันสมัย โดยมีการออกแบบให้เป็นปุ่มกดเรียงกัน เพื่อให้ใช้งานได้สะดวก พร้อมแอร์แยกอิสระซ้าย-ขวา มีที่วางแก้วน้ำ 2 จุดตรงคอนโซลกลาง ส่วนการเก็บรายละเอียดภายในก็ถือว่าทำได้ดีตามแบบฉบับ “มิตซูบิชิ”
ขยับมาที่ในส่วนของเบาะคู่หน้า โดยเฉพาะฝั่งคนขับที่ถือว่าออกแบบให้มีความใหญ่ แต่ก็โอบรัดกระชับและรองรับกับสรีระที่หลากหลาย สามารถปรับไฟฟ้าได้หลายฟังก์ชัน เรียกได้ว่าขับทางไกลก็ยังสบาย พวงมาลัยมาในรูปแบบของไฮดรอลิก ช่วยผ่อนแรง ทำให้พวงมาลัยหมุนได้เบามือขึ้น แต่เมื่อต้องใช้ความเร็วเยอะ การควบคุมก็ดูจะมีความวืดหวิวเล็กน้อย เนื่องจากพวงมาลัยไม่ได้ถูกเซ็ตให้มีความหน่วงขึ้นนั่นเอง ลืมบอก รุ่นนี้รองรับ Wiless Charger กับเค้าด้วยนะเออ! ถือว่าเป็นการขยับออปชันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าได้ดีเยี่ยม ส่วนแถวผู้โดยสารตอนหลังมีช่องเสียบชาร์จไว้ให้ผู้โดยสารแถวหลัง รองรับทั้ง USB A และ USB C แถมช่องแอร์ด้านหลังที่ติดตั้งด้วยรูปแบบของโบลเวอร์ สามารถปรับระดับความแรงของลมได้ 3 ระดับ
ขุมพลังเครื่องยนต์รุ่นนี้มาภายใต้รหัส 4N16 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่หมด มีการอัพแรงม้าและแรงบิดเพิ่ม ทำให้การออกตัวดูกระฉับกระเฉงขึ้น แต่ทว่าเมื่อผ่านรอบความเร็วเกือบสูงสุด กำลังเครื่องดูเหมือนจะหดหายไปพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังในการเร่งแซงในเลนสวน แต่สำหรับการใช้งานบนถนนปกติที่มีช่องจราจรหลายเลน ดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเรื่องของกำลังเครื่องยนต์เลย
เรามาต่อกันในเรื่องของช่วงล่าง ที่ทาง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้มีการพัฒนาแชสซีใหม่ ที่เปลี่ยนมาใช้เหล็กที่มีความแข็งแกร่งทนทานมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน และด้วยการเลือกใช้วัสดุเหล็กที่มีความแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ตัวโครงสร้างรถมี Torsion Stiffness เพิ่มขึ้น 20% แต่ในทางกลับกัน หากวัดน้ำหนัก แชสซีต่อแชสซี ตัวเฟรมของ ไทรทัน โมเดลใหม่นี้ จะมีน้ำหนักที่เบากว่า อีกทั้งยังมีการปรับปรุงในเรื่องของระบบกันสะเทือน และปีกนกด้านหน้าให้สูงขึ้น ทำให้โช้คอัพที่ได้รับการพัฒนาให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและสามารถรองรับการยุบตัวที่มากขึ้นได้ดีกว่ารุ่นเดิม
การใช้งานบนถนนในช่วงที่เป็นทางเรียบยางมะตอย ช่วงล่างของ ไทรทัน โมเดล 2023 ถูกปรับเซ็ตมาให้มีความนั่งสบายและนุ่มนวล พื้นที่ขรุขระเวลารถวิ่งก็สามารถซับแรงกระแทกได้ค่อนข้างดี แต่เมื่อต้องเจอกับหลุมที่ลึกและใหญ่ ตัวรถจะมีอาการโดดเด้งค่อนข้างเยอะ อาจเป็นในเรื่องของโช้คที่ซับแรงกด แต่ระยะยืดกลับทำได้ค่อนข้างช้า ทำให้ตัวรถมีอาการโยกตัวบ้างในบางจังหวะที่ต้องเจอกับหลุมบ่อ
การเข้าโค้งในไทรทันรุ่นนี้ ถือว่าทำได้อย่างเฉียบคม ถึงแม้ว่าตัวรถจะมีไซซ์บอดี้ที่ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ออกอาการโยนตัวจนน่าหวาดเสียว สามารถเข้าโค้งความเร็วที่พอประมาณด้วยความมั่นใจ ตอนขับในทางฝุ่น การเข้าโค้ง การใช้ความเร็วที่พอเหมาะพอควรก็ทำได้ดีไม่แพ้กันกับช่วงล่างที่ถือว่าให้ความมั่นใจในการขับขี่ตามแบบฉบับ “มิตซูบิชิ”
สรุปโดยรวม กระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 อัลตร้า ถือเป็นรถปิกอัพขับสองยกสูง ที่ให้ทั้งความสบายทั้งในด้านการขับขี่และเป็นคนนั่งตามสไตล์รถกระบะ การควบคุม คอนโทรลรถทำได้ค่อนข้างดีในทุกๆ สภาพถนน ในส่วนของกำลังของเครื่องยนต์ก็ทำได้ดีพอควร ขณะที่ออปชันที่ให้อาจจะดูขาดๆ หายๆ ไปเยอะพอสมควร เมื่อเทียบกับค่าตัวที่ทะลุหลักล้านบาท สุดท้ายยังไงก็อยากเชิญชวนให้กับลูกค้าหรือผู้ที่สนใจที่กำลังมองหารถกระบะไว้ใช้งาน ลองเข้าไปสัมผัสตัวเป็นๆ กันได้แล้วที่โชว์รูมและศูนย์บริการ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตั้งแต่วันนี้ ที่สำคัญ! อย่าลืมพกเงินติดกระเป๋าไปด้วย เผื่อถูกใจจะได้จอง ไทรทัน เจเนอเรชันใหม่ ไปขับขี่ก่อนใคร…