“พีพีวี” ดวลเดือด “มินิ เอ็มพีวี” โดดเด่น ตอบโจทย์ 2 แบบ 2 สไตล์

รถอเนกประสงค์พื้นฐานรถกระบะ (พีพีวี) เป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญ ที่เติบโตคู่ขนานไปกับตลาดรถกระบะ ด้วยความโดดเด่นที่ผสมผสานความสมบุกสมบันเข้ากับความสะดวกสบายตามยุคสมัย ซึ่งยังคงเป็นการขับเคี่ยวของ 2 แบรนด์เจ้าตลาด รวมถึง มินิ เอ็มพีวี รถอเนกประสงค์ที่มุ่งเน้นด้านการโดยสาร ยังคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเดินทางของผู้บริโภคชาวไทย
ยอดขายกว่าครึ่งหนึ่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ประเทศไทยในแต่ละปี เป็นตัวเลขของรถกระบะ ตอกย้ำความสำคัญภายใต้บทบาทของฐานการผลิตที่หลากหลายค่ายเลือกใช้และส่งไปทำตลาดทั่วโลก รถอเนกประสงค์พื้นฐานรถกระบะ (Pick-up Passenger Vehicle) หรือพีพีวี จึงเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่ถูกส่งลงทำตลาดคู่ขนานไปกับรถกระบะ และได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในบ้านเราเช่นกัน
เนื่องด้วยพื้นฐานที่มาจากรถกระบะ ส่งผลให้มีความโดดเด่นในเรื่องของความสมบุกสมบัน พร้อมลุยบนเส้นทางที่หลากหลาย มาพร้อมความสะดวกสบายที่ยกระดับด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย รวมถึงออปชันการใช้งานต่างๆ ที่พัฒนาควบคู่กับไปกับรถกระบะ ลบภาพเชยๆ แทนที่ด้วยความทันสมัยในแบบฉบับของรถยุคปัจจุบัน
แน่นอนว่า เจ้าตลาดอย่าง โตโยต้า และอีซูซุ ที่ครองสัดส่วนและยอดขายสูงสุดในตลาด ผลัดกันครองเจ้าตลาดตามทิศทางและช่วงเวลาของรถแต่ละรุ่นที่ส่งลงทำตลาด โดยในปีที่ผ่านมา รถอเนกประสงค์พื้นฐานรถกระบะ มียอดขายรวมเกินกว่า 60,000 คัน ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
นำทัพโดย โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่เพิ่งเปิดตัวเวอร์ชันล่าสุดในเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา ภายใต้ทางเลือกที่หลากหลายใน 4 รุ่นหลัก ตอบโจทย์ความต้องการในรูปแบบและสไตล์ที่แตกต่างกันไป มาพร้อมการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภค เก็บเกี่ยวยอดขายไปได้มากกว่า 25,000 คัน ครองสัดส่วนราว 42%
ขณะที่ อีซูซุมิว-เอ็กซ์ ขยับตัวด้วยรุ่นใหม่ในเดือนตุลาคม ยกระดับการใช้งานด้วยเทคโนโลยีใหม่ ภายใต้รูปโฉมที่หรูหรา ทันสมัยยิ่งขึ้น ทั้งยังได้เพิ่มสีใหม่เข้ามาเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และยังคงไว้ซึ่งความนิยมด้วยความเหนียวแน่นของฐานแฟนอีซูซุ ส่งผลให้ มิว-เอ็กซ์ เดินหน้าเก็บยอดขายไปได้มากกว่า 20,000 คัน ครองแชร์ 31%
ฟอร์ด เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นในตลาดที่เติบโตก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปโฉมและสมรรถนะการใช้งาน ส่วนหนึ่งของการเติบโตได้อานิสงส์มาจากกระแสของรถกระบะประจำค่าย โดย เน็กซ์-เจน เอเวอเรสต์ มาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยมนับตั้งแต่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ และคว้ายอดขายไปได้มากกว่า 8,500 คัน ครองส่วนแบ่งตลาด 14%
ถัดมาเป็นตัวแทนจากค่ายมิตซูบิชิ อย่าง มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ซึ่งเวอร์ชันล่าสุดทำตลาดมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และอยู่ในช่วงปลายโมเดลของรถรุ่นดังกล่าว อย่างไรก็ดี ยังสามารถคว้ายอดขายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ไม่วูบวาบหวือหวา แต่ยังสามารถคว้าส่วนแบ่งได้ราว 11% ด้วยยอดขายมากกว่า 7,000 คัน
ปิดท้ายด้วย นิสสัน เทอร์ร่า ที่ทำตลาดมาเป็นเวลานานแล้วเช่นกัน นับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดประเทศไทย ทว่า ด้วยทิศทางของนิสสันในตลาดประเทศไทย ส่งผลต่อยอดขายของรถรุ่นดังกล่าวที่เก็บเกี่ยวไปได้มากกว่า 1,000 คัน ครองสัดส่วนราว 2% จากส่วนแบ่งที่บรรดาผู้เล่นหลักแย่งชิงและถือครอง
รวมถึงรถอเนกประสงค์ในรูปทรงของรถตู้ย่อส่วน อย่าง มินิ เอ็มพีวี (Multi-Purpose Vehicle) เป็นอีกทางเลือกในตลาดรถอเนกประสงค์ในบ้านเรา ภายใต้ความโดดเด่นในเรื่องความกว้างขวาง โดยสารได้จำนวนมาก ส่งผลให้จำนวนผู้เล่นในตลาดเพิ่มมากขึ้นสอดรับความต้องการของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันมี 6 รุ่น จากที่ 4 ค่าย ให้เลือกจับจอง
ครองสัดส่วนมากที่สุดด้วย มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ที่ 46% ด้วยยอดขายมากกว่า 12,000 คัน ในปีที่ผ่านมา นับเป็นเซ็กเมนต์ที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับแบรนด์มิตซูบิชิ ที่ดูจะเงียบเหงาซบเซาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เฉือน โตโยต้า เวลอซ ทางเลือกใหม่ ที่ถูกส่งลงทำตลาดในประเทศไทย และคว้ายอดจองไปได้กว่า 9,600 คัน ครองส่วนแบ่งราว 39%
ขณะที่ ซูซูกิ เอ็กซ์แอล7 รั้งอันดับ 3 ในตลาด มินิ เอ็มพีวี ด้วยยอดขายมากกว่า 1,800 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดราว 7% รองลงมาได้แก่ ฮอนด้า บีอาร์-วี ที่เพิ่งเพิ่มความสดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ในปีนี้ เก็บเกี่ยวยอดไปได้ราว 900 คัน ครองแชร์ 3.5% ปิดท้ายด้วย โตโยต้า เซียนต้า และ ซูซูกิ เออร์ติก้า อีก 2 ตัวเลือกที่ครองสัดส่วนราว 3% และ 2% ตามลำดับ ด้วยยอดขายมากกว่า 700 คันและ 400 คัน
มองจากภาพรวมและทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้บริโภคชาวไทยน่าจะได้เห็นตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้น จากการขยับตัวของบรรดาค่ายผู้ผลิต ที่วางแนวทางการทำตลาดในทิศทางที่แตกต่างกันไป และเชื่อได้ว่า ในตลาดรถอเนกประสงค์ยังคงเป็นเซ็กเมนต์สำคัญที่โอกาสยังเปิดสำหรับโปรดักต์ที่ตอบโจทย์และโดนใจของผู้บริโภค ภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างกันไป