บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย อวดผลประกอบการไตรมาสแรกของปี ชูความนิยมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ขยายสัดส่วนเพิ่มเป็น 37% ผลักดันยอดขายเติบโตกว่า 11.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า พร้อมเสริมความแข็งแกร่งทีมฝ่ายขาย  หวังขยายฐานลูกค้า สอดรับทิศทางที่ยอดเยี่ยมของตลาดในเซ็กเมนต์ดังกล่าว

            ค่ายยานยนต์เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง หลังช่วงวิกฤติผ่อนคลาย บวกกับความคึกคักภายในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ผ่านมา โดยบรรดาค่ายผู้ผลิตจัดเต็มด้วยยนตรกรรมที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคครบครัน ทั้งในครัวเรือน รวมถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดรับทิศทางของเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดย บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เป็นหนึ่งในค่ายยานยนต์ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าองค์กร ส่งผลให้ในไตรมาสแรกของปี สามารถเก็บเกี่ยวยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 11.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการขับเคลื่อนกลยุทธ์การทำธุรกิจและบริการชั้นยอด ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหมู่ลูกค้าองค์กร

มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วงปีที่ผ่านมา เราเห็นความเปลี่ยนแปลงของแนวทางการดำเนินธุรกิจที่หันมามุ่งเน้นการพัฒนาอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ในขณะที่หลังจากมีการเปิดประเทศและเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ทั้งยังพบว่าลูกค้าในกลุ่มธุรกิจองค์กรให้ความสนใจและเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มลูกค้าองค์กรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ  โดยมีสัดส่วนถึง 37% ในไตรมาสแรกของปี 2566 สูงกว่าปีก่อนหน้า ที่มีสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ 32%”

ในปัจจุบันค่ายบีเอ็มดับเบิลยู มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เลือกใช้ 4 รุ่น ครอบคลุมยนตรกรรมพรีเมียมทุกเซ็กเมนต์ ประกอบด้วย บีเอ็มดับเบิลยู iX3, บีเอ็มดับเบิลยู iX, บีเอ็มดับเบิลยู i4 และบีเอ็มดับเบิลยู i7 ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มองหายนตรกรรมพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน สอดคล้องกับพันธกิจของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในการขับเคลื่อนยนตรกรรมแห่งอนาคต มุ่งเน้นความยั่งยืนและการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

“บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จะยังคงมุ่งพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และนำเสนอที่สุดของ ‘พลังแห่งทางเลือก’ ให้กับลูกค้าองค์กรต่อไป อย่างที่เห็นได้จากการเปิดตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i7 และบีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ซึ่งเป็นรุ่นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และปลั๊กอินไฮบริด ในกลุ่ม Luxury Class ที่จะช่วยสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจให้กับลูกค้าองค์กรต่างๆ ตลอดจนแพ็กเกจและข้อเสนอสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้” มร.บารากา กล่าวเสริม

จากทิศทางที่ยอดเยี่ยม ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยูเสริมความแข็งแกร่งทีมฝ่ายขายสำหรับลูกค้าองค์กร รุกขยายฐานลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยยนตรกรรมและบริการระดับพรีเมียม  เตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าองค์กรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ด้วยทีมฝ่ายขายที่รับผิดชอบดูแลการวางกลยุทธ์การขาย แผนการตลาด จนถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์และข้อเสนอต่างๆ และการนำเสนอบริการสำหรับลูกค้าองค์กรทุกประเภท

โดย มร.เซอร์เกย์ กิดอน ผู้จัดการฝ่ายขายลูกค้าองค์กรและการขายพิเศษ จะรับผิดชอบด้านการพัฒนา วางกลยุทธ์ และการจัดการธุรกิจองค์กรโดยรวม ของลูกค้าองค์กรและการขายพิเศษ ซึ่งรวมไปถึงโปรแกรมการขายพิเศษสำหรับลูกค้าธุรกิจโรงแรม การวางแผนการตลาดสำหรับลูกค้าองค์กร และกลยุทธ์การขายของเครือข่ายผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้าองค์กร

ขณะที่ คุณวิชิต ตั้งวงศ์ชื่นสุข ผู้จัดการฝ่ายขายลูกค้าองค์กร รับผิดชอบด้านการประสานงานตรงกับกลุ่มลูกค้าหลัก สนับสนุนเครือข่ายผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการด้านการขายให้กับลูกค้าองค์กร รวมไปถึงการขายรถยนต์ฟลีท การขายระดับองค์กรผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายของบีเอ็มดับเบิลยู และการให้บริการลูกค้าองค์กร

ปิดท้ายด้วย คุณญาดานันท์ บุนนาค ฝ่ายขายลูกค้าองค์กรที่มีสถานะทางการทูตและการขายพิเศษ รับผิดชอบด้านการประสานงานตรงกับคณะทูต สถานเอกอัครราชทูต และองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงการนำเสนอโซลูชันแก่ธุรกิจให้บริการรถลีมูซีนและลูกค้าธุรกิจโรงแรมระดับห้าดาว การดูแลลูกค้าที่มีสถานะทางการทูต รถประจำสถานทูต และองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์และข้อเสนอทางการเงินแก่ธุรกิจให้บริการรถลีมูซีนและลูกค้าธุรกิจโรงแรมระดับห้าดาว