จอ…จ่อ…จ้อ…457 แค่…โอกาสเปลี่ยน แค่…บรรยากาศเปลี่ยน ชีวิต…โอเคแล้วล่ะ

หลังโควิด-19 คลี่คลาย “รามอินทรา” มีโอกาสได้ออกงานมากขึ้น ได้เจอะเจอ “คนสื่อ” มากขึ้น บรรยากาศเดิมๆ เริ่มกลายมาให้ได้สัมผัสกัน รวมถึงพรรคพวกที่เคยคุ้นเคย แต่…ที่มากกว่านั้น จำนวนคนสื่อที่เพิ่มมากขึ้น แต่กลับไม่ค่อยคุ้นเคย ด้วยเพราะเป็นยุคของการสื่อสารสมัยใหม่ การเป็นเจ้าของเป็นคนสื่อ เป็นได้ค่อนข้างจะง่ายมาก จนทำให้เกิด “คนสื่อ” มากมาย จนทำให้รู้จัก…เป็นเหมือนคนแปลกหน้า ไม่ค่อยกล้าเปิดหน้าคุยกับใครมากนัก เพราะรู้สึกตัวเองเป็นแค่…คนสื่อดั้งเดิม ไม่ใช่คนสื่อผู้กว้างขวาง รู้จักคนยานยนต์และค่ายยานยนต์
แต่…สิ่งหนึ่งที่ “รามอินทรา” รู้สึกอบอุ่นหัวใจ ยังมีคนยานยนต์รู้จักและให้เกียรติกันเหมือนเดิม ยังสามารถทำตัวได้เหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องไปจ๊ะจ๋าเกินความจำเป็น ไม่อยากไปอยู่ในกรอบรูปใคร และยังอยากยืนอยู่บนโลกของตัวเอง ไม่รู้แบบที่เค้าเรียกกันว่า หิวแสง หรือไม่? ด้วยเหตุนี้…การได้ออกงานเยอะขึ้น ทำให้รู้สึกได้เลยว่า ความเป็น “รามอินทรา” ยังคงดำรงอยู่อย่างมั่นคง และยังมีคนพอจะรู้จัก ขอแค่ได้เห็นกันก็ยังจำกันได้ และยังรู้สึกเหมือนเดิม
การออกงานได้มากขึ้น ทำให้ “รามอินทรา” สามารถเขียนงานได้มากขึ้นด้วย เพราะได้เจอะเจอกับตัวละครมากขึ้น การได้เจอกับใครต่อใคร การได้พูดคุยกัน การได้เห็นบรรยากาศ แค่นั้น “รามอินทรา” ก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถเขียนงานได้แบบ…ไม่ต้องคิดเยอะ หยิบปากกาหยิบกระดาษ เดี๋ยวก็เขียนจบแล้ว สำคัญมากกว่านั้น ยังทำให้ได้เห็นการขยับขับเคลื่อนของคนสื่อรุ่นใหม่ ได้เห็นชัดเจนว่า วันนี้…คนที่คุยเก่ง อวดอ้างเกินก็สามารทำให้ได้รับการยอมรับ สามารถก้าวผ่านความสำเร็จได้
“รามอินทรา” ยอมรับ…อายุที่ก้าวผ่านเลข 7 มาแล้ว ทำให้เริ่มรู้สึก อยากพัก ไม่อยากไปนำเสนออะไรแข่งกับใคร แค่ดูแลงานที่ได้ทำ ดูแลคนรอบข้าง และสำคัญที่สุด ยังสามารถนั่งเขียนหนังสือ โดยได้รับการยอมรับจากคนยานยนต์ จนสามารถเขียนงานให้ได้อ่านกันทุกสัปดาห์ เป็น “รามอินทรา” ที่ใครๆก็ยังอยากติดตาม อยากสนับสนุน อยากให้ “ยวดยาน” สามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน แค่นี้…ก้อ…โอเคแล้วล่ะ ยังไงก็ฝากให้ “คนยานยนต์” ดูแล “รามอินทรา” แบบรักและผุกพัน ไม่ยอมปล่อยมือกันนะครับ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
24 สิงหาคม 2565