ส่องกล้อง ‘ค่ายรถ’ ชิงเกมครึ่งปีหลัง เสริมทัพรุ่นใหม่ ล่ายอดขายปี 2568

ท่ามกลางความท้าทายของตลาดรถยนต์ในช่วงต้นปี 2568 ที่ดูจะซบเซา แต่ละค่าย แต่ละแบรนด์ ยอดขายหดหาย อันเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง แต่แผนที่วางไว้ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อ ในช่วงครึ่งปีหลังค่ายรถยนต์ยังคงเตรียมแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ลงตลาด ทั้งแบบ นิว โมเดล และไมเนอร์เชนจ์ เพื่อกระตุ้นความสนใจและเก็บเกี่ยวยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง “ยวดยาน” จะพาไปส่องกล้องอัปเดตรถใหม่ที่จะมีโอกาสเปิดตัวว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปติดตามกัน
ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วงต้นปี 2568 ยังคงอยู่ในสภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยแรงจากภาคธุรกิจและการลงทุนที่กระเตื้องขึ้น ภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการรถยนต์ให้สูงขึ้น นโยบายของภาครัฐที่จะสนับสนุนการใช้จ่ายให้เร่งตัวขึ้น
ขณะที่ภาพรวมตลาดรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 มียอดขายรวมลดลง 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขายอยู่ที่ 200,386 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 76,151 คัน ลดลง 8.1% และรถเพื่อการพาณิชย์ 124,235 คัน ลดลง 2.6%. อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยอดขายรวมเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย 1% โดยเฉพาะรถยนต์นั่งที่เติบโต 3.6%
จากสัดส่วนตัวเลขยอดขายของรถยนต์นั่งที่เติบโต สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสนใจรถยนต์นั่งมากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์นั่งประเภทไฮบริด (เอชอีวี) และรถยนต์นั่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (บีอีวี) ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือการส่งเสริมจากภาครัฐและผู้ผลิตรถยนต์ ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์นั่งประเภทเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ไอซีอี) อาจลดลง
ส่วนแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ เราอาจจะได้เห็นการขยับตัวของค่ายรถยนต์เพิ่มมากขึ้นจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งแบบที่เป็นรุ่นใหม่และรุ่นปรับปรุง เพื่อกระตุ้นตลาดและตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่คาดว่าจะฟื้นตัวมากขึ้น แม้ว่าตลาดรถยนต์ในช่วงต้นปีอาจจะยังซบเซาอยู่บ้าง แต่หลายค่ายก็ยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะช่วยกระตุ้นความสนใจและยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังต่อจากนี้ โดย “ยวดยาน” จะพาไปส่องความเคลื่อนไหวของค่ายรถยนต์ ที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด
เรามาเริ่มกันที่ค่ายยักษ์ใหญ่ โตโยต้า การขยับตัวในช่วงครึ่งปีหลังมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเริ่มจาก รถยนต์นั่งซีดาน ยาริส เอทีฟ ภายใต้ขุมพลังเอชอีวี ที่คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงราวเดือนสิงหาคมของปีนี้ หลังจากนั้นอาจจะมีรถยนต์รุ่นย่อย หรือรุ่นปรับโฉม คลอดออกมาทำตลาด และอาจจะมีไฮไลต์ในช่วงปลายปีด้วยการเปิดตัว โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ อี (Toyota Hilux Revo e) รถกระบะพลังงานไฟฟ้า 100% โดยเน้นกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์เป็นหลัก ตอกย้ำแนวคิดมุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Toyota Multi-Pathway เพื่อนำเสนอสินค้าที่หลากหลายโดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
ขณะที่ค่ายฮอนด้า เราจะเห็นการขยับตัวผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เน้นขุมพลังขับเคลื่อนฟูลไฮบริดเป็นแกนหลัก ผ่านยนตรกรรมหลากหลายรุ่น ซึ่งคาดว่าครึ่งหลังของปีนี้น่าจะมีความเคลื่อนไหวของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ให้แฟนๆ ฮอนด้า ได้ชื่นอกชื่นใจกันบ้าง
ขยับมาที่ค่ายมาสด้า ในช่วงปลายปีเราอาจจะได้เห็นบิ๊กเซอร์ไพรส์จากการเปิดรถยนต์รุ่นใหม่ 5 รุ่นในประเทศไทย แผนการนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Multi-solution ที่มาสด้านำเสนอรถยนต์หลากหลายรูปแบบ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด, และไฮบริด โดยรุ่นแรกที่คาดว่าจะเปิดตัวในปลายปีนี้ก็คือ รถยนต์ไฟฟ้า Mazda 6e นอกจากนี้ มาสด้ายังมีการปรับโฉมและเพิ่มออปชันในรุ่นซีเอ็กซ์-5 พร้อมปรับราคาลงเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์อีกด้วย
ขยับมาที่ความเคลื่อนไหวของค่ายรถยนต์ซูซูกิ โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ได้เตรียมแผนธุรกิจอิมพอร์ต ซูซูกิ ฟรองซ์ เข้ามาเสริมทัพ นอกจากนี้ ซูซูกิ ยังมีแผนนำเข้า Suzuki e VITARA รถไฟฟ้า 100% เตรียมเปิดตัวในไทยปลายปีนี้ด้วยเช่นกัน
ขณะที่ค่ายนิสสันในไทย แผนงานในช่วงครึ่งปีหลัง จะยังคงมุ่นเน้นการปรับโครงสร้างโรงงานผลิตเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รวมถึงรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า โดยยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดอาเซียนและประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลัก
และนี่เป็นเพียงความเคลื่อนไหวบางส่วนของค่ายรถยนต์ที่มีการขยับตัวแผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ ภายใต้การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ลงสู่ตลาดและพร้อมปรับกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
นับเป็นทิศทางที่น่าสนใจของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย หลังผ่านพ้นช่วงของกระแสบีอีวี และกระแสรถยนต์ไฮบริดที่ดูมีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2568 ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างช้าๆ โดยเฉพาะตลาดรถยนต์นั่งในประเทศที่ยังคงเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว