“เอ็มจี อีเอส” ย้ำผู้นำอีวี พร้อมใช้ 9.59 แสนบาท
เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ตอกย้ำบทบาทผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในตลาดประเทศไทย เสริมทัพสร้างความแข็งแกร่งด้วย เอ็มจี อีเอส สเตชั่นวากอน พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ภายใต้รูปโฉมที่ทันสมัยยิ่งขึ้น มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชันใหม่ ตอบสนองการใช้งานด้วยระยะทางวิ่งไกลกว่า 412 กิโลเมตร เคาะราคา 959,000 บาท พร้อมโฮมชาร์จเจอร์ และอุปกรณ์เสริม
“เอ็มจีมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่จะนำเสนอ เอ็มจี อีเอส ในฐานะรถรุ่นใหม่ของครอบครัว ผสานการใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยในการขับขี่ เข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับรถ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบายและง่ายดายมากยิ่งขึ้น ภายใต้บทบาทของสเตชันวากอนอีวีแนวใหม่ มาพร้อมสไตล์การออกแบบที่เรียบหรู เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ นับเป็นนิยามใหม่ของความพรีเมียมที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า” นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ใหม่
สำหรับ เอ็มจี อีเอส ยกระดับความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดกันชนหน้า ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Light Curtain Design เสริมการใช้งานด้วยชุดราวหลังคา รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม มาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง ตกแต่งด้วยเส้นสายโทนสีฟ้า พร้อมเบาะนั่งวัสดุหุ้มหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN ให้ผิวสัมผัสคล้ายยีนส์ ชุดเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ ยกขอบปีกข้าง พร้อมเทคโนโลยี Zero-G Seats กระจายน้ำหนักและรองรับสรีระของผู้นั่งให้ดียิ่งขึ้น เดินทางระยะไกลได้สบาย
ยกระดับสมรรถนะด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชันใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM) ให้พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ให้การตอบสนองที่ดียิ่งขึ้น ทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง เสริมสร้างประสบการณ์การขับขี่ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่ปรับได้ 3 ระดับ
มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเทียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh มีการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 22% และระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ให้สมรรถนะในการขับเคลื่อนได้ไกลถึง 412 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จทั้งแบบ Quick Charge จาก 0%-80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที และ Normal Charge รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kW ใช้เวลาการชาร์จจาก 0%-100% ภายในเวลา 7 ชั่วโมง 15 นาที ทั้งยังรองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถไฟฟ้าให้เป็นแหล่งจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2200 วัตต์
เสริมการขับขี่ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF ที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM และระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 20 ระบบ อาทิ ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB
พร้อมด้วยระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS ทั้งยังมาพร้อมกับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ในรูปแบบ Lite version สามารถควบคุมและรับการแจ้งเตือนสำคัญของรถเอ็มจีของตัวเองได้เพียงปลายนิ้ว
เอ็มจี อีเอส ใหม่ มาพร้อมกับสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และสีเงิน (Champagne Silver) และตกแต่งภายในสไตล์ทูโทน พร้อมหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN เคาะราคาจำหน่ายที่ 959,000 บาท มาพร้อม MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด ฟรีค่าติดตั้ง, ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี, สาย V2L จำนวน 1 ชุด และการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร