“รามอินทรา” ยกนิ้วให้ 667 อยากเห็น…ความคึกคัก แห่งตลาด…รถปิกอัพ ยกมือเชียร์…ทุกๆค่าย

ห้วงเวลาที่ผ่านมา…มีข่าวที่น่าจะยินดีกับยอดขายรถยนต์ที่เติบโตขึ้น แม้จะเป็นแค่รถเฉพาะกลุ่ม แต่…อย่างน้อยก็ยังได้เห็นแสงสว่างที่เกิดขึ้น ยิ่งในช่วงเวลาที่ต้องบอกว่า…ยากลำบากกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในทั่วโลก ที่น่าสนใจกว่านั้น…เป็นการเติบโตของรถยนต์ไฮบริด ที่เป็นรถยนต์ของค่ายรถญี่ปุ่นเป็นส่วนมาก และถือเป็นรถที่คนไทยนั้นมีความคุ้นเคยอีกด้วย สิ่งสำคัญ…ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้… “รถไฟฟ้า” จากประเทศจีน เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก เมื่อรถไฮบริด…ที่ถือเป็นรถน้ำมันถึงไฟฟ้า ได้รับความสนใจมากขึ้น จึงถือเป็นข่าวดี ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ความสำเร็จของค่ายรถเท่านั้น หาก “รามอินทรา” ยังมองว่าน่าจะส่งผลดีต่อคนสื่อบ้างไม่มากก็น้อย เพราะรถญี่ปุ่นนั้นเข้าอกเข้าใจธรรมชาติของคนสื่อ เข้าใจวิถีการดำรงอยู่ และพร้อมที่จะจัดงานสนับสนุนอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์อีกด้วย
ความสำเร็จของรถยนต์ไฮบริดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ “รามอินทรา” อดเหลียวมองไปที่รถปิกอัพไม่ได้ เพราะยังเชื่อว่า…เป็นอีกความต้องการของคนไทย ที่วันนี้วิถีการทำมาหากินเปลี่ยนไป ความจำเป็นในการพึ่งพาคนกลางนั้น น่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วล่ะ โดยเฉพาะ คนที่เป็นชาวไร่ชาวสวน วิถีการทำมาหากินต้องเปลี่ยนมาพึ่งพาตัวเอง ด้วยพื้นฐานความจำเป็น เมื่อต้องเจอะเจอปัญหาของราคาที่ตกต่ำ การพึ่งพาตนเองกลายเป็นตัวหลักแล้ว พืชผลที่ราคาตกต่ำ ทำให้ต้องค้าขายโดยตรง และรถปิกอัพก็เป็นเหมือนอีกความจำแป็น ของอาชีพค้าขายเอง ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า…ชาวไร่ชาวสวนเริ่มที่จะบรรทุกสินค้ามาขายเองมากขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องผ่านคนกลาง พึ่งตัวเองเป็นด้านหลัก อาจเหนื่อนมากขึ้น แต่เมื่อเป็นความจำเป็น สุดท้าย…ก็ไม่มีทางเลือกไหน ที่น่าจะโอเคกว่า
ด้วยเหตุนี้… “รามอินทรา” มองว่า…ถ้าค่ายยานยนต์สามารถแก้ปัญหาเรื่องระบบการผ่อนส่งได้ เชื่อว่า…อาจเป็นช่องทางการสามารถสร้างยอดขายรถปิกอัพได้มากขึ้นก็ได้ เมื่อวันนี้… “ลิสซึ่ง” เป็นปัญหา ก้อ…ไม่แตกต่างจากชาวไร่ชาวสวน เจอะเจอปัญหาเรื่องคนกลาง ก้อ…ต้องดิ้นรนค้าขายเอง “ค่ายรถยนต์” ก็คงต้องหาทางออกในเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ถ้าสามารถเคลียร์ปัญหาเรื่องนี้ได้ น่าจะทำให้การอยากเป็นเจ้าของนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น “รามอินทรา” ยกมือเชียร์ให้ทุกค่ายยานยนต์ ที่มีรถปิกอัพเป็นอีกตัวขาย สามารถค้นหาทางออกได้เจอ และนั่นจะทำให้สถานการณ์ของรถปิกอัพ น่าจะสดใส และคึกคักยิ่งขึ้น ก้อ…ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด แต่… “รามอินทรา” ก็อยากเอาใจช่วย อยากเห็นความคึกคักแห่งรถปิกอัพที่ถือว่าเป็นอีกรถคันที่มีความหมายต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยเหมือนกัน
“รามอินทรา” ถือโอกาสยกนิ้วให้กับทุกความเคลื่อนไหว ยืนยันยังเป็นอีกกองเชียร์ของรถปิกอัพ ยังเป็นความหวังของทุกค่ายยานยนต์ได้ มีอะไรที่คิดว่า “ยวดยาน” และ “รามอินทรา” สามารถเป็นส่วนหนึ่งได้ ยกมือสูงๆด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
อยากเห็นความคึกคักแห่งรถปิกอัพจริงๆ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
2 กรกฎาคม 2568