คนในสังคม ฉบับ 1,146

หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,146 ประจำวันที่ 1-7 กันยายน 2568 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับสถานการณ์ที่ยังไม่มีคำตอบ ว่าบทสุดท้ายของสงครามไทย-เขมร จะเป็นเยี่ยงไร? เมื่อวันนี้…ยังเป็นการเล่นสงครามของข่าวสาร ที่ดูเหมือนว่า…เขมรจะเล่นเกมนอกระบบ โกหกทุกเรื่องที่อยากจะโกหก สิ่งที่ไม่เข้าใจ…ทำไมการสร้างภาพสร้างเรื่องถึงได้รับการยอมรับ ทั้งๆ ที่หลักฐานนั้น ย้อนแย้งกับสิ่งที่รายงาน แต่…ที่ไม่อาจจะมองข้าม วันนี้…ประเทศไทยเริ่มเจอะเจอปัญหาแรงงาน ด้วยที่ผ่านมา…มีแรงงานเขมรอยู่ในเมืองไทยระดับเป็นล้านคน สิ่งที่น่าสนใจ เป็นแรงงานที่คนไทยเอง ก็ไม่ยอมทำ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผล…ค่าแรงที่ถูกเกินไป หรือเป็นเพราะคนไทยเลือกงานมากกว่า คงต้องติดตามกันต่อไปว่า…สุดท้ายสงครามจะจบลงแบบไหนและเมื่อไหร่…*** “รามอินทรา” วกวนเข้าสู่แวดวงคนยานยนต์ ลัดเลาะไปหาข่าวมาเขียนให้อ่านกัน… “รามอินทรา” จับอาการของค่ายรถที่ผ่านมา…ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ซูซูกิ ฟรองซ์ ไฮบริด ที่ทำให้เห็นรอยยิ้มของ “เสี่ยลภ” วัลลภ ตรีฤกษ์งาม ที่วันนี้สบายใจกับการนำเข้า ที่ทำให้สามารถเลือกรุ่นรถได้มากกว่าที่ผ่านมา รวมถึงการที่ไม่ต้องแบกภาระเรื่องโรงงานการผลิต ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนความสำเร็จได้โอเคกว่า…*** อีกค่ายหนึ่งที่ขยับเป็นรถยนต์มาสด้า ที่แม้จะยังไม่มีรถใหม่ แต่การขยับปรับลุคปรับราคา ทั้งมาสด้า CX-3 และมาสด้า CX-30 น่าจะทำให้ตัวเลขยอดขายขยับตัวเลขได้ เพราะทั้งสองรุ่นเป็น “รถขาย” ของมาสด้า ที่ถือเป็นรถสร้างยอดอีกด้วย ก้อ…เป็นการขยับเพื่อเปิดทางสู่มิติใหม่ในช่วงปลายปีของ “จอมทัพมาสด้า” ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์…*** ค่ายนี้ก็ไม่อยู่นิ่งเฉย รถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ ยังมีการขยับตัวด้วยเหมือนกัน “รามอินทรา” ยังเชื่อว่า… “ประธานต่อ” รัฐการ จูตะเสน ยังมีการขับเคลื่อนที่มากกว่า ขอแค่รอเวลาที่ใช่ แล้วค่อยเจอกัน เพราะยังไงรถยนต์ฟอร์ด ก็ยังเป็นรถยอดนิยมของคนไทย…*** แต่ที่ “รามอินทรา” รู้สึกเหมือนจะเงียบไปนี้ด น่าจะเป็นฝั่งรถหรูทั้ง 3 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือบีเอ็มดับเบิลยู หรือวอลโว่ ที่ระยะหลังเหมือนจะยังไม่มีความคึกคักอะไร? สถานการณ์น่าจะยังคงปกติอยู่…*** จากข่าวคราวที่ค่อนข้างเงียบของ “รถไฟฟ้า” ในห้วงเวลานี้ “รามอินทรา” คุยกับพรรคพวกถึงเหตุผล…คำตอบคล้ายๆ กัน…เป็นเรื่องของตัวเองล้วนๆ โดยเฉพาะ…การลดราคา ที่ต้องบอกเป็นความไม่คุ้นชินของลูกค้าคนไทย ยิ่งลดครั้งละหลักแสน ยิ่งกระทบความรู้สึก สิ่งหนึ่งที่ “รามอินทรา” มักพูดเสมอๆ…คนไทยนั้นเชื่อง่าย แต่…ลืมยาก ยิ่งลดราคาแบบไร้เหตุผล ยิ่งเป็นเรื่องที่คุยกันไม่รู้เรื่องจริงๆ…*** อีกเหตุผล… “รถไฟฟ้า” นั้น…ไม่ค่อยมีงบสำหรับ “คนสื่อ” เหมือนรถญี่ปุ่น ที่มีความผูกพันและให้การสนับสนุนกันมาอย่างยาวนาน คงไม่แปลกใจอะไร ถ้าจะเห็น “คนสื่อ” ให้ความสนใจกับข่าวคราวของ “รถไฟฟ้า” น้อยลงไปเป็นลำดับ เมื่อชีวิตที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นต้นทุน…*** ก้อ…คงไม่แตกต่างจากข่าวคราวของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่วันนี้…มีความคึกคักมากขึ้น คงต้องติดตามกันว่า จะคึกคักได้นานแค่ไหน? เมื่อหลังการซื้อแล้ว ใครจะมาคอยดูแลบริการหลังการขาย หากรถมีปัญหา “รามอินทรา” เขียนให้อ่านกันตามความเห็นที่สัมผัสมา…*** จากคนรถยนต์ “รามอินทรา” วกลงไปเขียนถึงคนมอเตอร์ไซค์กันบ้าง…*** ระยะนี้…ความคึกคักแห่งรถจักรยานยนต์ดูเหมือนจะชัดเจนขึ้น แม้จะขับเคลื่อนกันอยู่แค่ 2 ค่าย แต่…ทั้งไทยฮอนด้า และไทยยามาฮ่า นั้น ก็เหมือนจะครอบคลุมตลาดเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วละ สิ่งสำคัญ “รถจักรยานยนต์” นั้น ยังน่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญของการทำมาหากิน ทุกการขับเคลื่อนจึงมีความหมายสำคัญต่อสถานการณ์เศรษฐกิจด้วยเหมือนกัน…*** ก่อนย่อหน้าสุดท้าย “รามอินทรา” ยังอยากเห็นทุกการขับเคลื่อนของทุกค่ายยานยนต์ เมื่อห้วงเวลาล่วงสู่ครึ่งปีหลัง ที่ประเทศไทยยังคุกรุ่นด้วยสงครามชายแดนไทย-เขมร ค่ายไหนคิดว่า “ยวดยาน” ยังเป็นสื่อกลางของข่าวสารยานยนต์ได้ ก้อ…ส่งข่าวมาได้เลย พร้อมพิจารณาและนำเสนอให้ ยังไงก็ยังอยากเห็นรอยยิ้มของทุกค่ายทุกคน…*** ย่อหน้าสุดท้าย…ขอบคุณที่ยังคงคิดถึงกัน ยังคงพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ยิ่งสถานการณ์ที่ยากลำบาก ยิ่งอยากเห็นรอยยิ้มมากขึ้น…*** พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ