“CX-8” เข้าตา จองแล้ว 1.2 พันคัน แท็กทีมเพื่อนร่วมค่ายดันยอดขายโต
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย อวดยอดขายเดือนสิงหาคม เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นำทัพโดยรถยนต์นั่งที่ยังครองใจผู้บริโภค โดยรถรุ่นล่าสุดอย่าง MAZDA CX-8 มาพร้อมการตอบรับที่ดีเยี่ยม เดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดจองไปแล้วกว่า 1,200 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดประเทศไทย พร้อมเร่งผลิตและส่งมอบ สอดรับความต้องการของลูกค้ารถเอสยูวีแบบที่นั่ง 3 แถว
อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย เดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ สร้างการเติบโตให้บรรดาค่ายผู้ผลิต สอดรับแนวทางที่ควรจะเป็น หลังโดนวิกฤติโควิด-19 แช่แข็งในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทว่าปัญหาขาดแคลนชิพเซมิคอนดักเตอร์ กลับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ฉุดรั้งการเติบโต และสร้างปัญหาให้กับการผลิตรวมถึงการส่งมอบรถให้กับลูกค้าที่อาจจะล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ดีการเดินหน้าเสริมทัพด้วยรถรุ่นใหม่ๆ ยังคงเป็นหนึ่งในแผนการตลาดที่แต่ละค่ายได้วางไว้ ซึ่งเป็นหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญต่ออัตราเติบโตของตลาดรถยนต์ ทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายเพิ่มตัวเลขให้กับผู้ผลิต สอดรับทิศทางที่ผู้บริโภคมีกำลังที่จะจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น และมีจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจซื้อรถโดยมีปัจจัยเรื่องความปลอดภัยเป็นตัวแปรสำคัญ ในช่วงเวลาที่โควิด-19 ยังเป็นประเด็นในสังคม
โดย MAZDA CX-8 เป็นรถรุ่นล่าสุดจากค่ายมาสด้าในตลาดประเทศไทย ยกระดับการใช้งานด้วยออปชันและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ซึ่งล็อกเป้าไปที่กลุ่มครอบครัวยุคใหม่ที่ชื่นชอบในความพรีเมียมและสะดวกสบาย รวมถึงความอเนกประสงค์ภายในห้องโดยสารที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย ทั้งยังคงความได้เปรียบในฐานะทางเลือกเดียวในตลาดเอสยูวีแบบที่นั่ง 3 แถว
มร.ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าวในวันเปิดตัวว่า “การเปิดตัวในวันนี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับรถในตระกูล CX-Series ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตาตามแนวทางการออกแบบโคโดะ ดีไซน์ ผสานกับเทคโนโลยีความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ถูกยกระดับมาอย่างเต็มเปี่ยมครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น เชื่อว่ารถรุ่นนี้จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็น และสามารถเติมเต็มความสุขให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ในทุกการเดินทาง”
ด้วยความโดดเด่นทั้งในเรื่องรูปร่างหน้าตารวมถึงสมรรถนะการใช้งาน ส่งผลให้ MAZDA CX-8 ได้รับความนิยมจากแฟนมาสด้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าครอบครัวยุคใหม่ ที่มองถึงความอเนกประสงค์และตอบโจทย์ชีวิตในยุคปัจจุบัน สามารถเก็บเกี่ยวยอดจองไปแล้วมากกว่า 1,200 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมากกว่าครึ่งเป็นยอดจองของรุ่นย่อยใหม่อย่าง 2.5 SP EXCLUSIVE แบบ 6 ที่นั่ง วอล์ค ทรู
แม้จะเดินหน้าส่งมอบรถให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 250 คัน ทว่าปัญหาขาดแคลนชิพเซมิคอนดักเตอร์เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการผลิต สร้างยอดค้างส่งให้กับค่ายมาสด้ากว่า 1,000 คัน เป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่จะต้องแก้ โดยคาดว่าจะสามารถเคลียร์แบ็กออเดอร์และเดินหน้าส่งมอบรถให้กับลูกได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากการตอบรับที่ยอดเยี่ยมของ MAZDA CX-8 แล้ว รถยนต์นั่งรุ่นอื่นๆ ยังคงเป็นตัวขายที่สร้างการเติบโตให้กับค่ายมาสด้าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยอัตราเติบโตที่เพิ่มขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา หลังเก็บเกี่ยวยอดขายไปได้ทั้งสิ้น 2,718 คัน
จำแนกเป็น มาสด้า2 จำนวน 1,408 คัน เพิ่มขึ้น 46% รองลงมาได้แก่ มาสด้า CX-3 จำนวน 456 คัน เพิ่มขึ้น 61% และมาสด้า CX-30 จำนวน 381 คัน เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่ มาสด้า บีที-50 ขายได้ 227 คัน เพิ่มขึ้นถึง 224% ส่วน มาสด้า3 มียอดขาย 117 คัน เพิ่มขึ้น 23% ปิดท้ายด้วย มาสด้า CX-5 จำนวน 93 คัน เพิ่มขึ้น 116% และ มาสด้า MX-5 จำนวน 1 คัน
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะมาสด้า บีที-50 ที่กลับมาเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ภายหลังจากส่งแคมเปญพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้ไปต่อ ฝ่าทุกวิกฤติเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจให้กลับมาอีกครั้ง เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการนำรถไปประกอบอาชีพ ช่วยให้ประชาชนคนไทยก้าวเดินหน้าต่อไปได้หลังประสบกับวิกฤติมายาวนาน”
“ในขณะที่ มาสด้า CX-5 ก็เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน ซึ่งจากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่งสัญญาณเชิงบวกว่าตลาดรถยนต์กำลังเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในเดือนกันยายนจะเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจัยเรื่องชิ้นส่วนเพื่อการผลิตที่ขาดแคลนเมื่อก่อนหน้านี้ได้เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลดีกับมาสด้าในเรื่องการผลิตรถรุ่นต่างๆ โดยเฉพาะ มาสด้า CX-8 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ มีลูกค้าจองเข้ามามากกว่า 1,000 คัน ซึ่งมาสด้ากำลังเร่งผลิตเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าโดยเร็วที่สุด”
สำหรับเจเนอเรชันที่ 2 ของมาสด้า CX-8 เข้ามาสานต่อความนิยมของรถเอสยูวีแบบที่นั่ง 3 แถว ที่ถูกส่งลงทำตลาดตลาดประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 ด้วยความแข็งแกร่งในเรื่องของแบรนด์ รวมถึงความโดดเด่นและเป็นทางเลือกเดียวในตลาด ส่งผลให้เก็บเกี่ยวยอดขายสะสมไปได้มากกว่า 4,349 คัน