บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย เปิดตัว บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ ตอกย้ำบทบาทผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม มาพร้อม 3 รุ่นทางเลือก เคาะราคาเริ่มต้น 7,599,000 บาท ชูความโดดเด่นทันสมัยทั้งในเรื่องรูปโฉมและออปชันการใช้งาน ตอบโจทย์ด้วยระยะทางวิ่งสูงสุด 625 กิโลเมตร ย้ำวิสัยทัศน์อนาคตแห่งการขับเคลื่อนของบีเอ็มดับเบิลยู

                  ด้วยทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่หลากหลาย ด้วยทางเลือกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคในสไตล์ที่แตกต่างกันไป โดยมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นหนึ่งในทางเลือกที่หลายๆ ค่ายเลือกส่งลงทำตลาดในช่วงที่ผ่านมา ไล่เลียงจากบทบาทของซิตี้คาร์ไปจนถึงรถหรูที่มาพร้อมสมรรถนะการใช้งานที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น สอดรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

ล่าสุดเป็นคิวของ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ที่ขยับตัวสร้างความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัพอีวีด้วย บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ มาพร้อม 3 รุ่นย่อยทางเลือก ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport (First Edition), บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso

มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ สะท้อนความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู และจะมาเป็นยนตรกรรมที่นำพาอุตสาหกรรมยานยนต์เข้าสู่ยุคใหม่แห่งอนาคตได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และวันนี้ เราพร้อมเผยโฉมรุ่นขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบให้แฟนบีเอ็มดับเบิลยูชาวไทยได้ชมเป็นครั้งแรก กับรุ่นรถยนต์ที่สะท้อนความโดดเด่นครบทุกด้าน”

“ทั้งความสง่างามอันเป็นเอกลักษณ์ ความสะดวกสบาย สุดยอดประสบการณ์การขับขี่ และเทคโนโลยีเหนือชั้นพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ บีเอ็มดับเบิลยู i7 นับเป็นที่สุดของรถยนต์ในอุดมคติที่รวมคำจำกัดความของการคิดแบบมองไปข้างหน้า ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่พร้อมเผชิญทุกความท้าทายโดยยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และมองว่าการเดินทางด้วยรถยนต์คือส่วนหนึ่งของประสบการณ์พิเศษในทุกๆ วัน”

สำหรับรูปโฉมภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดําเงาและสปอยเลอร์หลังดีไซน์ M ตอกย้ำถึงคุณภาพระดับพรีเมียม รูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวปราดเปรียวบริเวณตัวถังด้านหลังเน้นการออกแบบเส้นสายแนวนอน มอบความรู้สึกโอ่อ่าและทรงพลังให้กับตัวรถ ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมที่ด้านล่างเพื่อสะท้อนความสง่างามเหนือระดับ ด้านบนเป็นไฟรูปตัว L ที่มาพร้อมรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเป็นครั้งแรก เสริมให้ไฟท้ายดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

การออกแบบไฟหน้าทรงกลมและกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมกรอบเรืองแสงของบีเอ็มดับเบิลยู ได้รับการตีความใหม่ทั้งหมดเพื่อสะท้อนรูปลักษณ์ให้ทันสมัยและโดดเด่นยิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมระบบปรับองศาเมื่อเข้าโค้ง ชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ Iconic Glow ประกอบด้วยไฟ LED จำนวน 22 ดวง ที่ส่องสว่างผ่านคริสตัลจากด้านหลัง และกระจังหน้าเรืองแสงเป็นประกาย มาพร้อมฟีเจอร์กราฟิกแสงระยิบระยับเมื่อผู้ขับขี่เข้าใกล้ตัวรถ เริ่มจากกระจังหน้าทรงไตคู่ไปจนถึงไฟหน้าคริสตัล และไฟส่องพื้น

ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยเบาะนั่งแบบมัลติฟังก์ชันครบครันทั้งตอนหน้าและตอนหลัง มาพร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงระบบอุ่นเบาะทุกที่นั่ง ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะที่นั่ง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน เพิ่มการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสารและมอบคุณภาพอากาศที่ดีให้กับผู้โดยสาร ทั้งสามรุ่นยังมาพร้อมวัสดุบุหลังคา M Alcantara ส่วนภายในตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M คอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black

ครบครันด้วยระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ โดดเด่นด้วย BMW Theatre Screen หน้าจอแบบพาโนรามาขนาด 31.3 นิ้ว มาในรูปแบบ 32:9 และความละเอียดระดับ 8K ที่ทอดยาวลงมาจากหลังคา และแปลงโฉมเบาะที่นั่งตอนหลังให้เป็นโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัว สามารถปรับเปลี่ยนเบาะที่นั่งด้านหลังให้กลายเป็นเลาจน์ส่วนตัว และเลือกโปรแกรมความบันเทิงที่ชื่นชอบจากหลากหลายตัวเลือกการสตรีมมิ่ง

จัดเต็มด้วยระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond ที่มอบสุนทรียศาสตร์แห่งเสียงคุณภาพระดับสตูดิโอ กับการวางตำแหน่งลำโพงที่การันตีได้ว่าทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะสามารถเพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด จากลำโพงที่ติดตั้งมาในตัวรถรวมทั้งหมดกว่า 39 ตัว ให้ประสิทธิภาพเสียงกว่า 1,965 วัตต์ พร้อมมอบประสบการณ์อย่างตราตรึงไม่ว่าจะนั่งอยู่ตำแหน่งใดภายในรถยนต์

ตอบสนองการใช้งานด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว พละกำลัง 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า BMW xDrive และเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 มาพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ 105.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนติดตั้งด้านล่างตัวถังผสานกับประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนส่งผลให้อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 19.6-18.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมง/100 กิโลเมตร มอบระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดที่ 625 กิโลเมตร ทำความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง

มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Stop & Go ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว ช่วยให้การบังคับทิศทางง่ายยิ่งขึ้นขณะเข้าโค้งหรือจอดรถ ทั้งสามรุ่นย่อยมาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ ในขณะที่ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ติดตั้งมาเป็นพิเศษในบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย

สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ มาพร้อม 3 รุ่นทางเลือก ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport (First Edition) ราคาจำหน่าย 7,599,000 บาท, บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport ราคา 7,849,000 บาท และบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ราคา 8,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)

โดยโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ BMW Services Inclusive (BSI) Standard สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน ครอบคลุมแพ็คเกจการรับประกันนานสูงสุด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทางและการบริการดูแลบำรุงรักษาสูงสุด 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงและอุปกรณ์ร่วมนานสูงสุด 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร การดูแลบำรุงรักษารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าจะมีกำหนดเข้ารับบริการทุก 24 เดือน

รวมถึงรายการต่างๆ ได้แก่ บริการตรวจเช็กรถ, บริการเปลี่ยนไมโครฟิลเตอร์, บริการเปลี่ยนน้ำมันเบรก, บริการชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงหลังการให้บริการ (ชาร์จสูงสุด 75%-80%), บริการเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน (ปีละหนึ่งครั้ง), บริการเปลี่ยนชุดเบรกหน้าและหลัง 1 ชุด รวมผ้าเบรกและจานเบรก (กำหนดการเปลี่ยนไม่ขึ้นอยู่กับระยะทาง)