ค่ายอีซูซุ เขย่าตลาดปลายปี เสริมทัพเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค พร้อมเติมความสดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ ทั้ง อีซูซุ ดีแมคซ์ และอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ชูคอนเซปต์ “THE ONE & ONLY” หนึ่งเดียว! เท่านั้น ปรับโฉม เพิ่มออปชันผสมผสานเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นยอด แต่ยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นของพละกำลังและความประหยัด ภายใต้ขุมพลัง 2.2 และ 3.0 Ddi Max Force  เคาะราคาเริ่มต้น 558,000 บาท สำหรับ ดีแมคซ์ ขณะที่ มิว-เอ็กซ์ มาพร้อมราคาเริ่มต้นที่ 1,194,000 บาท ตอกย้ำความเป็นหนึ่งเดียวที่สืบทอดดีเอ็นเอความเชื่อมั่นของอีซูซุมากกว่าครึ่งศตวรรษ

                  ตลาดรถกระบะยังคงเป็นเซ็กเมนต์ที่สำคัญ ที่ทำให้ค่ายผู้ผลิตพาเหรดเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หวังกระตุ้นตลาดในช่วงเวลาที่เหลือ พร้อมนำเสนอทางเลือกให้กับผู้บริโภค ตอบสนองการใช้งานภายใต้ความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป เติมความคึกคักในช่วงเวลาที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

โดย ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ นับเป็นหนึ่งในค่ายผู้ผลิตที่มักจะมีความเคลื่อนไหวในตลาดรถกระบะในช่วงท้ายปีอยู่เสมอ ซึ่งคราวนี้ อีซูซุ ยังคงจัดทัพไลน์อัปทั้ง อีซูซุ ดีแมคซ์ และอีซูซุ มิวเอ็กซ์ เปิดตัวโชว์ความอลังการที่สนาม 4×4 LAND ปทุมธานี มาพร้อมคอนเซปต์ “THE ONE & ONLY” หนึ่งเดียว! เท่านั้น

มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด  เผยว่า “หลังจากที่เราเปิดตัวเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดีเซลแห่งอนาคตไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากผู้ใช้รถยนต์ชาวไทยอย่างดีเยี่ยม ด้วยชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญในการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ ในวันนี้เรายังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้รถชาวไทย ด้วยการเปิดตัวรถปิกอัพและรถพีพีวี รุ่นใหม่ ตอกย้ำ DNA หนึ่งเดียวที่สืบทอดความเชื่อมั่นของอีซูซุมากว่าครึ่งศตวรรษ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างเต็มที่

ในส่วนของไลน์อัป อีซูซุ ดีแมคซ์ ที่เปิดตัวใหม่ในครั้งนี้ นำโดย อีซูซุ วี-ครอส 4×4 ปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยสมรรถนะที่แกร่งทนทาน พร้อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคตใหม่ล่าสุด ISUZU Ddi MAXFORCE ตอบโจทย์ทุกการขับขี่รอบด้าน ด้วยสมรรถนะแรงจัดเร้าใจ แต่ประหยัดน้ำมันเหนือชั้น แบบฉบับ ISUZU พร้อมเทคโนโลยี 4×4 ล่าสุดที่ครบครันแบบฉบับของ Professional 4×4 และระบบความปลอดภัยที่มั่นใจยิ่งกว่าใคร มาพร้อมสีใหม่ อินนิชมอร์ เกรย์ โอเพค (Inishmore Gray Opaque)

ภายนอกมาพร้อมหน้าตาใหม่ด้วยชุดกระจังหน้าแบบ Multi-layer ดุดัน ทรงพลังเกินขีดจำกัด ไฟหน้าดีไซน์พิเศษ โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสาย Modern Line พร้อม Multifunctional Daylight ที่ทาหน้าทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยว ไฟท้าย LED แบบ Clear Lens พร้อมชุดกันชนท้ายทรงสปอร์ต เท่ ทุกมุมมอง และใหม่! ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สี Matte Black ดีไซน์แบบ Metal Claw สปอร์ตเท่ ดุดัน ได้ใจสายลุย

ในส่วนของภายในถูกดีไซน์ระดับเฟิร์สคลาส เบาะทูโทนพร้อมเทคโนโลยี COOLMAX พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา มาพร้อมที่กรองฝุ่น PM 2.5 หน้าจอ Integrated MID ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว แสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบ หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และอื่นๆ รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay พร้อม Charging Socket แบบ USB-C ทั้งที่นั่งด้านหน้า และด้านหลัง ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพงแบบ Dynamic Surround Sound

วีครอส 4×4 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความสะดวกสบาย ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) พวงมาลัยไฟฟ้า ขับง่ายสบายทุกสภาพถนน ใหม่กล้องรอบคัน 360° Surround View Camera พร้อมมุมมองใต้ท้องรถ เพื่อความแม่นยำในการขับขี่ กุญแจรีโมตทุกรุ่น และ Isuzu Genius Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ตเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมตในระยะ 20 เมตร Walk Away Auto Lock ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร

เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบสปอร์ต Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย ที่สุดแห่งพลัง พร้อมเพิ่มเติมระบบความปลอดภัยอีก 4 ระบบ ให้ความมั่นใจและปลอดภัยในทุกการขับขี่ เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 937,000 บาท

ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ เติมเต็มความทันสมัย หรูหราและสะดวกสบาย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย พร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่าด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคต ISUZU Ddi MAXFORCE มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE มาพร้อมชุดกระจังหน้าแบบ Multi-layer เท่ สปอร์ตเร้าใจ

ไฟหน้าดีไซน์พิเศษ โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสาย Modern Line พร้อม Multifunctional Daylight ที่ทาหน้าทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยว ไฟท้าย LED แบบ Clear Lens พร้อมชุดกันชนท้ายทรงสปอร์ต โดดเด่นทุกมุมมอง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทน ดีไซน์แบบ Active Blade พร้อมเปิดตัวสีใหม่ DOLOMITE WHITE PEARL ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 77,8000 บาท

อีซูซุ เอ็กซ์ ซีรีส์ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่! 2.2 Ddi MAXFORCE ครั้งแรก จัดเต็มด้วยสไตล์สปอร์ตใหม่ BOLD & DYNAMIC CONCEPT หล่อเข้มตั้งแต่กระจังหน้าแบบ MULTI-LAYER พร้อมสเกิร์ตเข้ารูปแบบ INTEGRATED และชุดแต่งสไตล์คัสตอมรอบคัน ภายในฟีลเรซซิ่ง กับทุกรายละเอียดแบบเต็มอารมณ์สปอร์ต ด้วยโทนสีดำ-แดง มาพร้อมชุดแต่ง X Package ทั้งภายนอก และภายใน อาทิ กระจังหน้าแบบ Multi-layer โทนเข้มตัดแดง Garnet Red

ไฟหน้าดีไซน์พิเศษโฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสาย Stylish Red Line พร้อมไฟท้าย LED แบบ Clear Lens สติกเกอร์ Illusion of Speed คาดหน้า-หลัง สเกิร์ตหน้า-หลัง สไตล์ Integrated ลาย Kevlar พร้อมปั๊มลาย X เท่เข้ม เบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตทูโทนดำ-แดง พร้อมโลโก X ล้ออัลลอย 16 นิ้ว สี Gloss Black ห้องโดยสารโทนดำ-แดง ให้อารมณ์สปอร์ต เร้าใจ หน้าปัดแสดงข้อมูลสไตล์เรซซิ่ง สะท้อนตัวตนผ่านโลโก X หน้าจอ Infotainment 8 นิ้ว ระบบสัมผัส ดีไซน์สปอร์ตโทนแดง รองรับระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay ราคาเริ่มต้น 768,000 บาท

มิวเอ็กซ์ สู่จุดพีคใหม่…ของชีวิต ที่มาพร้อมขุมพลัง 2.2 และ 3.0 Ddi MAXFORCE และช่วงล่างใหม่ โช้คอัพแบบ STIFF FLEX ที่ออกแบบมาเพื่อลดการสั่นสะเทือน และการโคลงของรถขณะขับขี่ นุ่มนวล มั่นใจทุกครั้งที่เข้าโค้ง ครั้งแรก กับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS กล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ครบในทุกรุ่น รุ่น RS จำหน่ายราคาเริ่มต้นที่ 1,624,000 บาท

รุ่นแอคทีฟ ชูความพิเศษดีไซน์ CONCEPT JAPANESE SPORT SUV สัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณแบบญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพและความเชื่อมั่นที่วางใจได้ เสริมเอกลักษณ์แห่งความโดดเด่นด้วยชุดแต่งรอบคันจาก AKC เพิ่มสมรรถนะด้วยชุดช่วงล่างจาก PROFENDER เสริมลุคให้สปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยล้ออัลลอยจาก LENSO รุ่น JAGER APOLLO พร้อมยาง YOKOHAMA ADVAN SPORT ขนาด 265/50 ขนาด 20 นิ้ว หยุดรถได้อย่างมั่นใจ ด้วยระบบเบรกหน้า CALIPER แบบ 6 POT และ CALIPER เบรกหลังแบบ 4 POT พร้อมจานเบรกขนาด 355 mm จาก Run Stop เคาะราคาเริ่มต้นที่ 1,194,000 บาท