แกะกล่อง ‘รถญี่ปุ่น’ พาเหรด ‘รุ่นใหม่’ ชิงเค้กก้อนสุดท้ายปลายปี

ทิศทางตลาดครึ่งปีหลัง 2568 น่าจับตายิ่ง! ค่ายรถญี่ปุ่นเดินหน้าเสริมทัพรถใหม่ เติมความคึกคักเกือบทุกเซ็กเมนต์ ทั้งสันดาป, ไฮบริด, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปี พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่เป้าจำหน่ายรถยนต์รวมที่ตัวเลข 600,000 คัน
สถานการณ์ยานยนต์ในประเทศไทยยังคงต้องเจอกับความท้าทาย ท่ามกลางภาวะ เศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์หดตัวลงเป็นอย่างมากตั้งแต่ ปีที่ผ่านมา จนมาถึงปีนี้ ดังนั้น ค่ายรถยนต์ต่างต้องหากลยุทธ์ทางด้านผลิตภัณฑ์และการตลาดเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภค ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด ควบคู่ไปกับการ พัฒนาการบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจและประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า
ขณะภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในครึ่งปีแรก 2568 เริ่มส่งสัญญาณมี แนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปีที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขยอดขายรวมครึ่งปีแรกของปี 2568 อยู่ที่ 302,694 คัน หรือลดลงเพียงเล็กน้อยที่ 1.7% เมื่อเทียบกับปี 2567
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดยังคงขยับตัวได้อยู่ อาจเป็นเพราะการมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ยังคง ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์นั่งมีขุมพลังให้เลือกอย่างหลากหลาย สามารถดึงดูดผู้บริโภคและกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายในตลาด
ส่วนสถานการณ์รถใหม่ช่วงครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่าจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เปิดตัว หลากหลายเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายรถญี่ปุ่นที่เริ่มส่งสัญญาณให้เห็นความคึกคักอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด ที่ถือเป็นกำลังหลักที่สามารถต่อกรกับผู้เล่นสัญชาติจีนได้ อีก ทั้งยังเป็นการกระตุ้นตลาดและยอดขายให้กับแบรนด์ญี่ปุ่น โดยรวมถึงแม้ว่ายอดขายในช่วงครึ่งปีแรกจะลดลงเล็กน้อย แต่ตลาดรถยนต์ (XEV) ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี เห็นได้จากตัวเลย ยอดขายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
จากปัจจัยที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ยังคงทำให้ผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่น พร้อมเดินหน้าแผน แนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เปิดตัวสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง โตโยต้า ที่ขยับตัว ได้ร้อนแรงในตลาดรถยนต์เมืองไทย ด้วยการเปิดตัวรถยนต์นั่งซีดานยอดนิยม อย่าง ยาริส เอทีฟ ขุมพลังไฮบริดไปสดๆ ร้อนๆ ตอกย้ำกระแสตลาด XLV ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพร้อมสานต่อรถยนต์ไฟฟ้า 100% bZ4X ที่จะเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เช่นเดียวกับแผนการเปิดตัวกระบะโมเดลแชมป์ อย่าง ไฮลักซ์ รุ่นใหม่ ในปีนี้ด้วยเช่นกัน คาต ว่าจะเป็นการเปิดตัวที่สร้างกระแสเรียกความคึกคักให้กับตลาดรถปิกอัพไทยได้อย่างแน่นอน
ส่วนค่ายผู้ผลิตอื่นๆ ก็มีความเคลื่อนไหวอยู่ในตลาดรถยนต์ไทยเช่นกัน อาทิ มาสค้า ที่ เริ่มจากการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เติมความสดใหม่ให้กับโมเดลที่เปิดตัวไปแล้ว ทั้งยังมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ใหม่ในช่วงปลายปีด้วยเช่นกัน อย่าง มาสด้า CX-60 เอสยูวีขุมพลังใหม่ ที่คาดว่าจะนำมาเปิดตัวในไทยช่วงปลายปีนี้ เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่าง Mazda 6e
ขยับมาที่อีกหนึ่งค่ายอย่างนิสสัน ที่ตอนนี้รู้สึกจะปลื้มปริ่มกับยอดขายของ นิสสัน เซเร น่า ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ด้วยยอดส่งมอบ 2 รุ่น รวมกันเกือบ 2,000 คัน ทั้งนี้ นิสสันยังมีแผนจะส่งรถยนต์เอสยูวีรุ่นขายดีอย่าง นิสสัน เอ็กซ์เทรล อี-พาวเวอร์ (X-TRAIL e-POWER) เข้ามาทำตลาดอีกครั้งหนึ่งในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า 100% นิสสัน เอ็น7 โดยจะเป็นการนำเข้ามาจำหน่ายทั้งคัน หรือ CBU จากจีน
ปิดท้ายด้วยความชัดเจนอย่างค่ายซูซูกิ ที่ล่าสุดได้เปิดตัวรถยนต์เอสยูวี ซูซูกิ ฟรองซ์ พร้อมราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทยังมี แผนที่จะนำรถยนต์เอสยูวีทรงสปอร์ตขุมพลังไฟฟ้าล้วนอย่าง e VITARA เข้ามาจำหน่ายใน ประเทศไทยอีกด้วย
และนี่คือหนึ่งในความเคลื่อนไหวของแผนการทำตลาดรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ซึ่งนับว่ายังไม่ใช่ทั้งหมดของความเคลื่อนไหวของค่ายผู้ผลิต สัญชาติญี่ปุ่น ยังมีความเคลื่อนไหวของค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นรายอื่นอีกที่ยังไม่ได้กล่าวมา ทั้ง อีซูซุ, มิตซูบิชิ มอเตอร์ส, ฮอนด้า ที่ตอนนี้ยังคงต้องจับตากับแผนการส่งรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออก ตลาดเหมือนกับ 3 ค่าย ที่กล่าวมาหรือไม่ แต่เชื่อว่ามีโปรดักส์ใหม่ๆ ออกมาให้ได้เห็นกันอย่างแน่นอน
แน่นอนว่า ค่ายญี่ปุ่นที่ทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ต่างพร้อมจะเดินหน้า เร่งเครื่องเสริมทัพด้วยรถรุ่นใหม่ๆ สร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายหลังผ่านช่วงเวลาที่ตลาดรถ ผ่านจุดต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี โดยเชื่อว่าตลาดรถในปีนี้จะยังสามารถประคองตัวเลขอยู่ในระดับแตะ 600,000 คัน