หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,150 ประจำวันที่ 29  กันยายน-5 ตุลาคม 2568 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับวังวนแห่งการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า…รัฐบาล 4 เดือนของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ อนุทิน ชาญวีรกูล นั้น จะสามารถทำให้คนไทยมีความสุขได้มากแค่ไหน และเรื่องราวของไทยกับเขมรจะจบลงเยี่ยงไร จะมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวดองหมองยุ่งแค่ไหน? เมื่อมองลึกลงไปของรัฐบาลเพื่อไทยกับรัฐบาลภูมิใจไทย น่าจะมีเรื่องให้ต้องเคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ในเขมร หรือเรื่องของเขากระโดงกับเรื่องของ ส.ว. เพราะ “รามอินทรา” นั้น เชื่อว่า…สถานการณ์น่าจะเข้าข่าย ทีใครทีมันหรือไม่? เมื่อ “สีน้ำเงิน” นั้นไม่เคยกลัว “สีแดง” อยู่แล้ว และครั้งนี้จะมีบทสรุปของคำว่า…มันจบแล้วครับนาย ด้วยหรือไม่? …*** แน่นอน สุดท้าย…ก้อ…ต้องถามคำถามเดิม แล้วคนไทยได้อะไร? จะมีกินมีใช้เหมือนคนการเมืองหรือไม่? เมื่อวันนี้…คนระดับล่างที่หาเช้ากินค่ำ แทบจะไม่เหลืออะไรให้อยู่ดีกินดีอีกแล้ว รวมถึง…อีกคำถามที่อยากถาม…ประเทศไทยเป็นของใคร ทำไมคนบริหารถึงต้องตกอยู่ในมือของทายาทนักการเมือง ที่ตัวเองเป็นไม่ได้ ก็ส่งต่อให้ลูกๆ เป็น เอวัง…ก็มีด้วยประการฉะนี้ สงสารคนไทย…สงสารตัวเองจัง…*** จากเรื่องการเมือง “รามอินทรา” พาเลี้ยวเข้าสู่ถนนคนยานยนต์ เสาะหาข่าวคราวมาเขียนให้อ่านกัน เปิดค่ายแรก…กับความเคลื่อนไหวของรถยนต์ฟอร์ด ที่วันนี้…รู้สึกถึงความคึกคักแตกต่างจากวันวาน ก้อ…ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกเองมั้ย “ประธานต่อ” รัฐการ จูตะเสน ขับเคลื่อนและคึกคักน้อยลง ถึงแม้ว่า… “รถยนต์ฟอร์ด” ยังมีข่าวคราวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงวิถีแห่ง “คนฟอร์ด” อีกด้วย…*** อีกค่ายที่ “รามอินทรา” ยังไม่ค่อยเห็นความคึกคักเหมือนเช่นวันวาน เป็นค่ายรถยนต์วอลโว่ ของ “นายฝรั่ง” มร.คริส เวลส์ ที่ปกติจะมีข่าวคราวการขยับขับเคลื่อนที่ชัดเจน หรือเป็นเพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย หรือเป็นเพราะ “รามอินทรา” คิดเยอะไปเอง ก้อ…เป็นแค่ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เพราะอยากเห็น…ความคึกคักของวอลโว่นั่นแหละ ไม่มีอะไรแอบแฝงหรอก…*** จากเรื่องกระเซ้า “คนบริหาร” ลัดเลาะไปดูความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์กันบ้าง “รามอินทรา” ยกนิ้วให้กับค่ายยักษ์ใหญ่โตโยต้า ที่วันนี้ทำให้ “โตโยต้า ยาริส” นั้น กลายเป็นรถยนต์ตัวเลือกอันดับต้นของคนไทย ล่าสุด…โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ไฮบริด ก้อ…ยังมียอดจองไหลลื่น ใครเห็นอดที่จะคลำตังค์ในกระเป๋าไม่ได้ ยินดีกับ “นายญี่ปุ่น” มร.โนริอากิ ยามาชิตะ ด้วยนะครับ…*** อีกการขยับตัวที่มิอาจมองข้าม เป็นรถยนต์ซูซูกิ ฟรองซ์ ที่เชื่อว่าน่าจะถูกใจแฟนซูซูกิทั่วเมืองไทย เป็นอีกรถนำเข้าของซูซูกิ ที่ทำให้ “เสี่ยลภ” วัลลภ ตรีฤกษ์งาม เหนื่อยขึ้นกับยอดจองอย่างแน่นอน “รามอินทรา” ยินดีด้วย เพราะหลังการเปลี่ยนวิถีแห่งบริษัท เลิกผลิตเป็นนำเข้า ทุกอย่างดูลงตัวที่สุด…*** ค่ายนี้ก้อ…มีความคึกคัก แล้วเป็นรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ล่าสุด “นายฝรั่ง” มร.มาร์ทิน ชเวงค์ เปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มายบัค เอส 580 อี ใครอยากเป็นเจ้าของ แวะไปเช็กรายละเอียดกันได้ที่หนังสือพิมพ์ยวดยาน หรือที่แฟนเพจ Automotive Newspaper-YuadYan ที่ลงรายละเอียดซะจนอยากเป็นเจ้าของมากขึ้นอีก งานนี้ “รามอินทรา” อยากเห็นรอยยิ้มของ “เสี่ยดอม” อัชฌ์ บุณยประสิทธิ์ อีกคนด้วย…*** จากค่าย 4 ล้อ โยกเยกมาหาข่าวที่ค่าย 2 ล้อกันบ้าง “รามอินทรา” คิดถึง “คุณอาผมม้า” อารักษ์ พรประภา ที่ระยะหลังไม่ค่อยได้เจอตัวเป็นๆ ด้วยอาจเป็นเพราะ…เป็นระยะทำการงานเยอะจริง ก้อ…รับบททุกบทที่ต้องเดินสายไปตามงานต่างๆ ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง “คุณอาผมม้า” รับเหมาหมด ยังไง…ก็ต้องดูแลตัวเองบ้างนะครับ ร่างกายไม่ใช่รถจักรยานยนต์ฮอนด้านะครับ จะได้เปลี่ยนรุ่นได้หรือซ่อมได้ เป็นห่วงครับผม…*** ย่อหน้าสุดท้าย “รามอินทรา” ยกมือเชียร์ทุกค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ช่วงสุดท้ายของปี 68 เร่งสปีดทั้งเปิดตัวรถใหม่บ้าง รถไมเนอร์เชนจ์บ้าง ชีวิตยังไงก็ต้องสู้ ไม่สู้ก็เหมือนยกมือยอมแพ้ ใครที่คิดว่า… “ยวดยาน” และ “รามอินทรา” ยังมีประโยชน์ให้ใช้สอย ก้อ…กริ๊งกร๊างหรือส่งรายละเอียดมาให้เลย  พร้อมนำเสนอให้ตามสมควร…*** พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ