Ramindhra UHU

Top Menu

  • หน้าหลัก

Main Menu

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • หน้าหลัก

Ramindhra UHU

Header Banner

Ramindhra UHU

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • ส่องกล้อง ‘รถหรู’ จัดทัพ ‘รุ่นใหม่’ ตอบสนองหลากหลาย ล่ายอดปลายปี

  • กลุ่มตรีเพชร สร้างสังคมยั่งยืน เดินหน้าปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว

  • ‘นิสสัน’ คว้ารางวัลระดับสี่ โรงงานอุตสาหกรรมสีเขียว

  • ‘แลนด์โรเวอร์’ ชวนลูกค้าเร่งซื้อ ก่อนปีหน้า ราคาปรับขึ้นกว่าล้าน

  • ‘TANK 300’ คุ้มเกินคุ้ม กับตัวเลือก ราคาล้านต้น

Test Drive
Home›Test Drive›ลองขับ MITSUBISHI EXPANDER CROSS HEV เอ็มพีวีที่คุ้มค่า ตอบโจทย์นักเดินทาง

ลองขับ MITSUBISHI EXPANDER CROSS HEV เอ็มพีวีที่คุ้มค่า ตอบโจทย์นักเดินทาง

By writer
August 31, 2025
162
0
Share:

นับตั้งแต่เปิดตัวมา  MITSUBISHI EXPANDER  HEV และ MITSUBISHI EXPANDER  Cross HEV ได้กระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้า ส่งผลให้ยอดจำหน่ายของรถยนต์รุ่นนี้ขยับไปได้เรื่อยๆ นอกจากหน้าตาที่ดูโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาดแล้ว เครื่องยนต์ถือเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งการเลือกเครื่องยนต์ที่เป็นระบบไฮบริดนั้น ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นสิ่งที่เหนือกว่าคู่แข่งไปอีกขั้น

MITSUBISHI EXPANDER HEV เป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบบเอ็มพีวี ขนาด 7 ทั่นั่ง มาพร้อมจุดเด่นเทคโนโลยีแบบฟูลไฮบริด ที่ถูกถ่ายทอดดีเอ็นเอมาจากเทคโนโลยีปลั๊ก-อิน ไฮบริด ในรถยนต์ MITSUBISHI OUTLANDER ไล่เรียงจากรูปลักษณ์ภายนอก XPANDER Cross HEV ที่ยังคงคุ้นตาจากเวอร์ชันเครื่องยนต์สันดาป (ICE) โดยจุดต่างที่บ่งบอกว่าเป็นเวอร์ชัน Full Hybrid (HEV) ก็คือ การตกแต่งด้วย “โทนสีฟ้า” ในรายละเอียดต่างๆ ซึ่งมาพร้อมตราสัญลักษณ์ที่ประทับอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้น

ภายในห้องโดยสารแบบ 3 แถว ยังคงมีจุดเด่นเป็นความกว้างขวาง สะดวกสบายจากการปรับใช้งานได้อย่างหลากหลายตามสไตล์ยนตรกรรมอเนกประสงค์ ส่วนความแตกต่างจากเวอร์ชันเครื่องยนต์สันดาป (ICE) ส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของฟังก์ชันการใช้งาน เช่น การแสดงผลบนหน้าจอ LED ขนาด 8 นิ้ว สำหรับผู้ขับขี่ พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ดีไซน์ใหม่

รวมถึงชุดคันเกียร์ไฟฟ้า (Electric Shift) ทรงสั้น กระชับ ที่ดูเหมือนจะออกแบบให้ล้ำๆ  ดูทันสมัย เหมาะกับสไตล์ความเป็นยนตรกรรม HEV โดยที่ข้างๆ กันนั้น คือ สวิตช์ Drive Mode ให้เลือกปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 7 รูปแบบ

ซึ่ง 7 รูปแบบดังกล่าว ประกอบด้วย 5 โหมดการขับขี่ คือ Normal Mode สำหรับการขับขี่ทั่วไป, Wet Mode สำหรับถนนเปียก, Gravel Mode สำหรับถนนลูกรัง, Tarmac Mode สำหรับถนนลาดยาง ที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ และ Mud Mode สำหรับถนนดินโคลน ส่วนอีก 2 โหมดสงวนไว้สำหรับพลังงานไฟฟ้า คือ EV Priority Mode และ Charge Mode

ขุมพลังถูกยกระดับให้แตกต่างจากตัวเครื่องยนต์สันดาป โดยรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1 1.6 ลิตร MIVEC มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 95 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร เสริมศักยภาพด้วยเทคโนโลยี Full Hybrid ผ่านการทำงานด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator), แบตเตอรี่ขับเคลื่อน (Drive Battery) และมอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motor) มีกำลังสูงสุด 116 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 255 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการส่งกำลังได้อัตโนมัติตามลักษณะการทำงานของระบบ Hybrid

MITSUBISHI EXPANDER HEV ยังถูกติดตั้ง AYC ระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง ด้วยการคำนวณว่าจะเพิ่มหรือลดกำลังจากเครื่องยนต์ลงสู่ล้อด้านในโค้งและนอกโค้งให้สัมพันธ์กัน เพื่อสร้างสมดุล และเสถียรภาพให้กับตัวรถ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับทุกสภาวะการขับขี่บนท้องถนน โดยระบบนี้ยังผสมผสานการทำงานผ่านรูปแบบ Drive Mode ที่ปรับได้ถึง 7 รูปแบบ ประกอบด้วย 5 โหมดการขับขี่ Normal Mode, Wet Mode, Gravel Mode, Tarmac Mode และ Mud Mode กับ 2 โหมดการไฟฟ้า EV Priority Mode และ Charge Mode

พูดถึงภาพรวมการขับ ระหว่าง XPANDER Cross เวอร์ชันสันดาป (ICE) และ XPANDER Cross เวอร์ชัน HEV ภาคการใช้งานปกติในชีวิตประจำวัน ส่วนตัวเราคิดว่ามีขีดความสามารถใกล้เคียงกัน แต่ที่น่าประทับใจในเวอร์ชัน HEV ก็คือ ภาคการใช้งานเดินทางไกล

ที่นอกจากขับสบายๆ และอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีกว่า (ตามพฤติกรรมผู้ขับขี่) ยังแถมมาด้วยอรรถรสความสปอร์ตเบาๆ ที่รู้สึกได้ผ่านการควบคุมต่างๆ ไม่ว่าจะ พวงมาลัย, เบรก หรือแม้กระทั่งคันเร่ง ปูทางไปสู่อาการ “โยนตัว” และการ “ยึดเกาะถนน” ยามเข้าโค้งองศาต่างๆ ซึ่งอาการดังกล่าว พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นความสนุกภายใต้การควบคุมที่มั่นใจ เหมาะสำหรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งในชีวิตประจำวันหรือแม้แต่กระทั่งการเดินทางไกล

ขณะที่อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่ต้นสังกัด “เคลม” ว่าสามารถทำได้ดีกว่า จุดนี้ต้องยกให้ว่าแล้วแต่พฤติกรรมของผู้ขับขี่เป็นส่วนประกอบสำคัญ รวมถึงในรายละเอียดของออปชันด้านความปลอดภัย ซึ่งตอบได้ว่า เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน หากเทียบกับสไตล์ความเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง

ประเด็นท้ายสุด ก็คือ ค่าตัว 961,000 บาท ของเวอร์ชัน HEV ที่ขยับเพิ่มจากเวอร์ชันสันดาป (ICE) ราคา 946,000 บาท หากหยิบเอาสมรรถนะและออปชันที่ได้มาลองเปรียบเทียบกัน เราคงไม่ต้องสาธยายให้มากความหรอกครับ ว่าคุ้มค่ามากแค่ไหน

Previous Article

โซ่หลุด ฉบับ 1,146 เล่าเรื่องสไตล์ “โซ่หลุด” ความคึกคัก…ที่คุ้นชิน “ไทยฮอนด้า”…เปิดตัว

Next Article

เกียร์ 6 ฉบับ 1,146 มร.ทาคาชิ ฮาตะ อีซูซุ…ความสำเร็จที่ยั่งยืน

0
Shares
  • 0
  • +
  • 0

Related articles More from author

  • Test Drive

    ส่องกล้อง By Oil NISSAN SERENA S-Hybrid ออปชันคุ้มค่า เอ็มพีวีครอบครัว

    June 30, 2025
    By writer
  • Test Drive

    ลองขับ By The Great NISSAN KICKS e-POWER AUTECH รถอเนกประสงค์ยุคใหม่ อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าใช้

    April 23, 2024
    By writer
  • Test Drive

    ส่องกล้อง By The Great BYD E6 ทางเลือกขนส่งมวลชนยุคใหม่

    June 24, 2024
    By writer
  • Test Drive

    ส่องกล้อง By The Great FORTUNER GR SPORT ขั้นสุด พีพีวีค่ายโตโยต้า

    July 17, 2022
    By writer
  • Test Drive

    ส่องกล้อง By The Great BMW X1 sDrive20i M Sport โดดเด่นทั้งรูปโฉมและสมรรถนะ

    September 2, 2023
    By writer
  • Test Drive

    ส่องกล้อง By The Great TOYOTA FORTUNER 2.8 GR SPORT 4WD Black Top สปอร์ตเต็มขั้น ทั้งรูปโฉมและสมรรถนะ

    September 30, 2023
    By writer

Copyright © ramindhra-uhu.com. All rights reserved.