สมการรอคอย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดราคารถยนต์พีพีวี พรีเมียม GWM TANK 500 DIESEL รุ่นประกอบไทย ที่ถูกพัฒนาให้เหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย  ตั้งเป้าขายเดือนละ 300 คัน

            หลังประสบความสำเร็จกับรถยนต์อเนกประสงค์ TANK 300 ดีเซล ด้วยยอดขายถล่มทลายในช่วงต้นปีจนถึงกลางปีที่ผ่านมา ค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ ไทยแลนด์ ก็ค้นพบทิศทางการทำตลาดที่เหมาะสมและตรงโจทย์ตรงใจของผู้บริโภคชาวไทยได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อเดินเกมต่อความสำเร็จ ไม่รอช้า GWM TANK 500 DIESEL ถูกส่งออกสู่ตลาดต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

            ด้วยการวางตำแหน่งสินค้าให้มีความพรีเมียม หรูหรา ตั้งแต่ภายในจดภายนอก จะเห็นว่าหน้าตาการออกแบบของ GWM TANK 500 DIESEL ต่างจาก TANK 300 DIESEL อย่างสิ้นเชิง รถออกแบบมาให้มีความเป็นพีพีวีที่มาพร้อมความหรูหราและมีระดับ ด้วยเส้นสายรอบคัน บ่งบอกถึงความภูมิฐานและความแข็งแกร่ง ไฟหน้า LED ปรับไฟสูงอัตโนมัติ มีไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน มีฟังก์ชัน Follow-Me-Home ใช้ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางอะไหล่ GWM ปรับจากเดิมที่เก็บยางอะไหล่ที่บานฝาประตูท้าย มาไว้ที่ด้านใต้ของท้ายรถ เพื่อความสะดวกในการเปิด-ปิด ประตูท้าย และการจอดในพื้นที่จำกัด

ภายในห้องโดยสาร ทีมผู้บริหาร เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยอมรับว่า ตั้งใจใส่ความหรูหรา  ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายเข้ามาให้ กับผู้ใช้รถคันนี้ได้มากที่สุด เพราะต้องการสร้างความแตกต่างจากกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ พีพีวี ขนาด 7 ที่นั่ง ชูความโดดเด่นด้วยหน้าจอคู่  แสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสมัลติมีเดีย ขนาด 14.6 นิ้ว มีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พร้อมช่อง USB Type-A/C ด้านหน้า และ USB Type-A ที่ด้านหลังมาให้

ส่วนระบบปรับอากาศ ได้เพิ่มความพิเศษด้วยระบบกรองอากาศ N95 หลังคาพาโนรามิก เบาะนั่งรับกับสรีระ คู่หน้ามาพร้อมระบบนวด พื้นที่บรรทุกสัมภาระสามารถปรับยืดหยุ่นได้ ทั้งการพับเบาะหลังแบบ 50:50 รองรับความจุ 795 ลิตร พวงมาลัยแพดเดิลชิฟต์  รถคันนี้ยังถูกอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและความปลอดภัย เรียกว่ามีมาให้เต็มพิกัด

ช่วงล่างพัฒนามาจากโครงสร้างแชสซีและตัวถังแบบบอดี้ออนเฟรม ใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบปีกนกคู่ ทำให้สามารถควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำ ส่วนด้านหลังช่วงล่างแบบมัลติลิงก์ รักษาสมดุลและการควบคุมการขับขี่ สำหรับรุ่น 2.4T PRO และ ULTRA มี 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด ส่วนรุ่น 2.4T ULTRA 4WD มีโหมดการขับขี่ทั้งหมด 8 โหมด ได้แก่ โหมด 2H, 4H, 4L โหมดพื้นหิมะ โหมดพื้นโคลน โหมดพื้นทราย โหมดพื้นหิน และโหมดผู้เชี่ยวชาญ และฟีเจอร์ออฟโรดสุดล้ำ เช่น Tank Turn ที่ช่วยให้การกลับรถในที่แคบเป็นเรื่องง่าย, Off-road Cruise Control  และระบบล็อกเฟืองหน้า-หลัง ให้คุณมั่นใจในทุกเส้นทาง นอกจากนี้ ในรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD ยังมีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบอีกด้วย

ขุมพลังดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด เอกสิทธิ์เดียวจาก GWM รถ GWM TANK 500 DIESEL ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่  ให้กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่มาในรอบต่ำเพียง 1,500-2,500 รอบ/นาที มี 3 สี ได้แก่ สีขาว, สีดำ, สีเทา  กับ 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.4T PRO แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1.399 ล้านบาท, รุ่นDIESEL 2.4T ULTRA แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1.499 ล้านบาท และรุ่น DIESEL 2.4T ULTRA 4WD แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1.599 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายข้างต้นนั้น GWM ประกาศว่ามีให้จำนวนจำกัด สำหรับผู่ที่สนใจเพียงแค่ 500 คันแรกเท่านั้น โดยผู้ที่สนใจสามารถจองและมีรถพร้อมส่งมอบได้ทันที และ 500 คันแรกจะได้รับสิทธิพิเศษ ได้แก่ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, ฟรี บริการ Telematic Service พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตในรถ 3 ปี, ฟรี ค่าแรงบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กม. (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง), ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. 5 ปี การรับประกันคุณภาพรถ 5 ปี หรือ 150,000 กม. และรับประกันเครื่องยนต์ดีเซล 8 ปี หรือ 1,000,000 กม. ด้วย